หนังสือ “ซาตานิกเวอร์เซส” นำพันเอกริชาร์ด แฟร์ลี่ ตำรวจอังกฤษสู่การเป็นอิสลาม
พันเอกริชาร์ด แฟร์ลี่ Richard Fairley ขณะเป็นหัวหน้าผู้ตรวจการหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของสหราชอาณาจักร กล่าวในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับหนังสือพิมพ์ Asharq Al-Awsat ของอังกฤษ เมื่อปี 2010 ว่า ❝ผมเข้าอิสลามหลังจากอ่านและการไตร่ตรอง ❞
ในการให้สัมภาษณ์ พันเอกริชาร์ด แฟร์ลี่ กล่าวว่า เป็นอิสลามไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเร่งรีบ การตัดสินใจใช้เวลา 2 ปี ในระหว่างที่พยายามสัมผัสถึงหัวใจและความคิดของตนเอง ได้แวะเวียนมาที่ศูนย์อิสลามใน Regent’s Park ในใจกลางลอนดอนเป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่จะให้การปฏิญาณตนเป็นมุสลิมในเดือนสิงหาคม 1993 ต่อหน้าชีคจำนวนหนึ่งที่มัสยิดในลอนดอน และต่อหน้า ยูซุฟ อิสลาม หรือแคทส์ สตีเวน อดีตนักร้องเพลงป็อปชาวอังกฤษที่เปลี่ยนมานับถืออิสลาม
ริชาร์ด แฟร์ลี่ ยังภูมิใจในชื่อเดิมและยืนยันที่จะใช้ชื่อเดิม ซึ่งเป็นจุดยืนที่ถูกต้อง การเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม ไม่ได้มีหลักการให้เปลี่ยนชื่อเป็นภาษาอาหรับแต่อย่างใด เว้นแต่เป็นที่มีความหมายไม่ดี ซึ่งมีหลักการสำหรับทุกคน ไม่ว่ามุสลิมใหม่หรือมุสลิมเดิม ให้ทำการเปลี่ยนชื่อให้ถูกต้อง
บทสัมภาษณ์น่าสนใจบางตอน
Asharq Al-Awsat : คุณเริ่มอ่านอัลกุรอานเมื่อใด ?
– หลังจากการตีพิมพ์หนังสือ “The Satanic Verses” โดยซัลมาน รุชดี ผมอ่านอัลกุรอานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานในหน้าที่ของผม และในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องการทราบบางอย่างเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม และสาเหตุที่ชาวมุสลิมโกรธและออกไปประท้วงต่อต้านหนังสือเล่มนี้
Asharq Al-Awsat : อะไรดึงดูดคุณให้นับถือศาสนาอิสลาม ?
– ผมเข้าสู่ศาสนาหลังจากอ่านและศึกษา ผมเป็นบัณฑิตด้านธรณีวิทยาจาก British University of Exeter และหนึ่งในเพื่อนร่วมงานของผมที่มหาวิทยาลัยเดียวกันคือ Frank Gardner นักข่าวของ BBC ซึ่งกำลังศึกษาภาษาอาหรับและตะวันออกกลาง
ผมยังคงชื่นชอบวิทยาศาสตร์และค้นคว้าเกี่ยวกับมัน แต่ผมพบโองการอัลกุรอานที่ถูกประทานเมื่อ 14 ศตวรรษก่อนที่พูดเชิงลึกเกี่ยวกับบิ๊กแบง อีกกรณีหนึ่งเกี่ยวกับการขยายตัวของจักรวาล และกรณีที่สามที่อธิบายบทบาทหน้าที่ของภูเขาในการดูแลโลก
มี 3 โองการอัลกุรอานที่ทำให้ชีวิตของผมกลับหัวกลับหางและเปิดใจของผมไปสู่การชี้นำ แสงสว่าง และความลึกของศรัทธา มันคือโองการ
وَالسَّمَاءَ بَنَيْنَاهَا بِأَيْدٍ وَإِنَّا لَمُوسِعُونَ
“และชั้นฟ้าทั้งหลายที่เราสร้างขึ้นด้วยมือ และเราได้ขยายออก” (อัล-ดาริยะต ฉบับที่ 47)
และโองการอื่นในซูเราะห์อัลอันบิยา กล่าวว่า
أَوَ لَمْ يَرَ الَّذِينَ كَفَرُوا أَنَّ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضَ كَانَتَا رَتْقًا فَفَتَقْنَاهُمَا
“บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาไม่เห็นหรือว่าชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน ถูกเชื่อมเข้าด้วยกัน แล้วเราก็ได้แยกมันทั้งสองออกจากกัน ?”
และอีกโองการในซูเราะห์อัลนะบะ กล่าวว่า:
أَلَمْ نَجْعَلِ الأَرْضَ مِهَادًا * وَالْجِبَالَ أَوْتَادًا
“เรามิได้ทำให้แผ่นดินเป็นเปลและภูเขาเป็นหมุดหรือ?”
พันเอกริชาร์ด แฟร์ลี่ กล่าวว่า ❝ โองการเหล่านี้ไม่สามารถมองข้ามได้เลย ไม่มีหนังสือเล่มใดที่สามารถค้นพบความจริงข้อนี้เมื่อ 1,400 ปีก่อน และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเบื้องหลังมันคือเจ้าแห่งอำนาจอันยิ่งใหญ่ ❞
ที่มา
หนังสือพิมพ์ Asharq Al-Awsat ฉบับที่ 11400 ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2010
https://archive.aawsat.com/details.asp?issueno=11700…
เครดิต : Ghazali Benmad