21 มีนาคม 2565
เวลา 11.30-12.30 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นายกสภามหาวิทยาลัยฟาฏอนี พร้อมด้วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนีและประธานมูนิธิมะดีนะตุสสลาม รศ. ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา ได้เยี่ยมคารวะนายอิศอม บินศอลิห์ อัลญาตีลีย์อุปทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทยโดยได้ปรึกษาหารือเกี่ยวกับการริเริ่มโครงการก่อสร้างศูนย์อิสลามผู้อุปถัมภ์สองมัสยิดอันทรงเกียรติ กษัตริย์ซัลมาน บินอับดุลอาซิซ อาลซะอูด ณ เมืองมะดีนะตุสสลาม จังหวัดปัตตานี พร้อมพูดคุยโอกาสและแนวทางการพัฒนาด้านต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี หลังจากประเทศไทยและซาอุดิอาระเบียได้รื้อฟื้นความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ
และในเวลา 13.30-15.15 น. ในวันเดียวกัน นายกสภามหาวิทยาลัยฟาฏอนีพร้อมด้วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ได้เยี่ยมคารวะนายอะห์มัด อะลี เอ. เจ. อัตตะมีมี เอกอัครราชทูตรัฐกาตาร์ประจำประเทศไทย โดยได้รายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลชัยค์ญาซิม บินมุฮัมมัด อาลษานีย์ ณ เมืองมะดีนะตุสสลาม จังหวัดปัตตานี งบซ่อมแซมอาคารกาตาร์ที่มหาวิทยาลัยฟาฏอนี พร้อมโครงการก่อสร้างอาคารต่างๆ ตามแผนพัฒนามหาวิทยาลัยฟาฏอนี
รศ. ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา กล่าวว่าประเทศซาอุดีอาระเบียและประเทศกาตาร์ถือเป็นสองสายธารอันไหลรินที่มอบความดีงามแก่สังคมโลกมาโดยตลอดโดยเฉพาะสังคมมุสลิมในประเทศไทยและมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ในขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นายกสภามหาวิทยาลัยเปิดเผยว่า ในนามมหาวิทยาลัยและพี่น้องมุสลิมในประเทศไทยรู้สึกซาบซึ้งในมิตรไมตรีของประเทศซาอุดีอาระเบียและประเทศกาตาร์ ที่เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาสังคมในทุกมิติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์ที่จะเป็นกำลังหลักในการค้ำจุนสังคมสันติภาพต่อไป
โดย Mazlan Muhammad