อัลลอฮ์สร้างมนุษย์เพื่อเคารพภักดีต่อพระองค์
และสร้างทุกสรรพสิ่งไว้คอยบริการและอำนวยความสะดวกให้มนุษย์สามารถทำหน้าที่นี้อย่างสมบูรณ์
ทั้งแสงแดดและรังสี แม่น้ำลำธาร อากาศหรือธาตุ ทะเลหรือมหาสมุทร สิงสาราสัตว์ เรือกสวนไร่นา ฟากฟ้าและแผ่นดิน แม้กระทั่งดวงดาวและจักรวาล ล้วนแล้วคอยบริการและเอื้ออำนวยให้แก่มนุษย์ทั้งสิ้น
พระองค์ทรงประกันว่าจะประทานปัจจัยยังชีพให้ทุกคน
ยิ่งมีประชากรมาก ปัจจัยยังชีพก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
ประชากรไม่มีวันล้นโลก
ประชากรไม่มีวันตายด้วยความอดอยาก
หากมีการแบ่งปันและกระจายความมั่งคั่งอย่างเป็นธรรม
พระองค์ไม่ปล่อยให้มนุษย์เคว้งคว้างหาคำตอบชีวิตตามลำพัง แต่จะเสนอชุดคำสอนพร้อมต้นแบบอันสมบูรณ์และสุดประเสริฐให้มนุษย์ปฏิบัติเป็นเยี่ยงอย่าง
ชุดคำสอนที่สมบูรณ์คืออิสลาม ในขณะที่ต้นแบบอันสุดประเสริฐคือนบีมูฮัมมัด صلى الله عليه وسلم
เพราะไม่ว่าจะเก่งกาจ อัจฉริยะ เลอเลิศแค่ไหน มนุษย์ก็คือมนุษย์วันยังค่ำ
มนุษย์ไม่เข้าใจแม้กระทั่งตัวเอง
แล้วจะสร้างวิถีชีวิตให้มนุษย์ทั่วโลกในทุกยุคทุกสมัยยึดปฏิบัติได้อย่างไร
นักทฤษฎีทางสังคมหรือนักสังคมวิทยา ทำได้เพียงศึกษาประวัติศาสตร์และทำนายทึกทักอนาคต แล้วมากำหนดปัจจุบันของเขาอันจำกัดและคับแคบเพื่อให้มนุษยชาติที่มีความหลากหลายมาเป็นแนวปฏิบัติ
ทั้ง ๆ ที่เขาเองยังไม่รู้เลยว่า วันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น โลกจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดบ้าง
เป็นไปได้หรือที่คนอย่างคาร์ล มากซ์ที่ผิดหวังในความรักและอคติลึกกับชนชั้นปกครอง จะมีทัศนคติเชิงบวกในชีวิตและสร้างทฤษฎีทางสังคมที่มีความเอื้อเฟื้อและยุติธรรม
เป็นไปได้หรือที่นักกวี นักเขียนบทละคร นักดนตรี ซึ่งเคยรับตำแหน่งเพียงเลขานุการสถานทูตที่สองของสาธารณรัฐฟลอเรนซ์ ที่เป็นที่รู้จักในนามเมเคียเวลลี จนได้รับการยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งรัฐศาสตร์ ในหนังสือของเขา The Prince ซึ่งกลายเป็นคัมภีร์ของชนชั้นปกครอง ทั้ง ๆ ที่น่าจะเป็นตำราที่ปลูกฝังลัทธิก่อการร้ายโดยมีอำนาจรัฐเป็นเจ้าภาพหลัก การใช้เล่ห์เหลี่ยมอุบายในการเมือง และการกระทำอันไร้คุณธรรมจริยธรรมทั้งหลาย
เป็นไปได้หรือที่ Malthusianism ที่คอยหลอกหลอนมนุษย์ว่าประชากรจะล้นโลก แต่ทรัพยากรจะหดหาย จนกลายเป็นที่มาของวาทกรรมลวงโลก “ลูกมาก ยากจน”
ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบันมนุษย์รู้จักประดิษฐ์คิดค้นนวตกรรมจากพลังงานทดแทน พลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานชีวภาพ ที่สามารถใช้กันอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งโลกสิ้นสลาย เพื่อตอกย้ำคำมั่นสัญญาของพระเจ้าว่า อย่าได้ฆ่าลูกเนื่องจากกลัวความยากจน พระองค์เป็นผู้ประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกท่าน(ผู้อุปการะ) และพวกเขา (ผู้ได้รับการอุปการะ)
เป็นไปได้หรือที่ ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์ ซึ่งอธิบายพฤติกรรมของคนบนฐานของความต้องการทางเพศ ราวกับว่ามนุษย์ไม่ต่างไปจากสัตว์ ทฤษฎีเช่นนี้จะนำพามนุษย์ให้เป็นคนหรือสัตว์เดรัจฉานกันแน่
แม้กระทั่งดาร์วินที่หลอกมนุษย์นานนับศตวรรษว่าบรรพบุรุษของมนุษย์คือลิง โดยได้ปลูกฝังแนวคิดที่ถือว่าพลังอำนาจเท่านั้นที่เป็นใหญ่ โลกนี้ไม่มีที่สำหรับผู้อ่อนแอ ผู้ชนะมีความชอบธรรมเสมอ
คำสอนเยี่ยงนี้ สามารถยกระดับความเป็นคนให้เป็นมนุษย์เรืองปัญญาหรือไม่
ลองนำทฤษฎีซาตานเหล่านี้มาหลอมรวมให้เป็นคำสอนชุดเดียวกัน และนำไปประยุกต์ใช้กับบุคคล ครอบครัวหรือสังคมอันเดียวกัน ถามว่า โลกนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ที่น่าสนใจคือเจ้าของทฤษฎีลวงโลกเหล่านี้หากไม่ใช่เป็นยิวแท้ๆ ก็เป็นเด็กในคาถายิว
ยิวจึงเป็นซาตานในคราบมนุษย์ ที่พระองค์ทรงโกรธกริ้วและสาปแช่ง
เพราะนอกจากขีดขวาง กีดกั้นนโยบายและเป้าประสงค์ของอัลลอฮ์แล้ว ยังหลอกล่อมวลมนุษย์ให้คล้อยตามความจอมปลอมของมันอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้กระมัง ที่อัลลอฮ์สอนให้ศรัทธาชนปฏิเสธแนวทางของผู้ที่ถูกโกรธกริ้วจำนวน อย่างน้อย 17 ครั้งต่อวัน
รึว่าเรากำลังคล้อยตามวิถีซาตาน
โดย Mazlan Muhammad