ความหมายของอิสลาม
อิสลามเป็นประมวลคำสอนชุดสุดท้ายที่ถูกประทานลงมาจากฟากฟ้า อันประกอบด้วยคำสอนสำคัญต่าง ๆ เช่นหลักการศรัทธา หลักการปฏิบัติ หลักการใช้ชีวิต ตลอดจนการพิพากษาและการตอบแทนหลังความตาย ซึ่งอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี มอบให้เป็นวิถีชีวิตแก่มวลมนุษยชาติ ทุกชาติพันธุ์ ภาษาและพื้นที่
อิสลามแปลว่าการยอมจำนน การนอบน้อม และการเชื่อฟัง ผู้ที่นับถือและศรัทธาชุดคำสอนนี้เรียกว่ามุสลิม ซึ่งหมายถึงผู้ที่นอบน้อมและยอมจำนนต่อข้อบัญญัติของอัลลอฮ์ด้วยความพอใจและสมัครใจ ปฏิบัติตามคำบัญชาใช้และหลีกห่างจากคำสั่งห้ามของพระองค์ พร้อมทั้งยึดมั่นในคุณธรรมและจริยธรรมอันสูงส่งแห่งอิสลามโดยเชื่อมั่นศรัทธาในหลักศรัทธา 6 ประการและปฏิบัติศาสนกิจตามหลักการอิสลาม 5ประการ
อิสลาม เป็นศาสนาที่ถูกกําหนดจากพระเจ้าผู้ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง ซึ่งมีพระนามว่า อัลลอฮ์ ดังนั้นอิสลามจึงเริ่มต้นตั้งแต่มนุษย์คนแรกในโลกนี้คือ อาดัม ซึ่งพระองค์ทรงสร้างขึ้น โดยผนวกรวมระหว่างธาตุดินที่กลายเป็นสรีระร่างกาย และธาตุแห่งวิญญาณ ที่ไม่มีใครสามารถหยั่งรู้ในส่วนนี้ได้ เว้นแต่พระองค์ หลังจากนั้นพระองค์สร้างคู่ชีวิตของเขา คือ เฮาวาอ์ จากกระดูกซี่โครงด้านซ้ายของเขา เพื่อให้สัญญาณว่าทั้งคู่คือส่วนที่ต้องเกื้อหนุน เติมเต็มซึ่งกันและกัน พระองค์ไม่สร้างนางจากศีรษะเพื่อให้บูชาเทิดทูน ไม่สร้างนางจากเท้าเพื่อย่ำยีกดขี่ แต่มาจากซี่โครงที่อยู่เคียงข้างหัวใจ เพื่อทำหน้าที่คอยปกป้องและเยียวยาหัวใจ และจากมนุษย์คู่แรกนี้ ก็ได้เกิดเผ่าพันธุ์มนุษย์ กระทั่งแพร่หลายกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปนับแต่นั้นมา จวบจนโลกอวสาน
อัลลอฮ์ได้ทรงเลือกสรรแต่งตั้งศาสนทูตของพระองค์ในทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่นบีอาดัมในฐานะมนุษย์คนแรก เพื่อทําหน้าที่สั่งสอนและชี้นำมนุษย์ให้รู้จักพระเจ้าที่แท้จริง ศรัทธาต่ออัลลอฮ์เพียงพระองค์เดียว ห่างไกลการเคารพบูชาหรือสิ่งสักการะทั้งหลาย และปฏิบัติตามข้อบัญญัติของพระองค์ ตามที่ปรากฏในคัมภีร์ของบรรดาศาสนทูตตามยุคสมัย จนกระทั่งถึงยุคของศาสทูตมูฮัมมัด ซึ่งท่านได้เผยแพร่ข้อบัญญัติจากอัลลอฮ์ คือ อิสลาม ดังนั้นผู้คนทั้งหลายจึงมักเข้าใจว่า ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ เมื่อ 1,400 กว่าปีที่ผ่านมา ทั้ง ๆ ที่เป็นคำสอนที่ต่อเนื่องและควบคู่กับมนุษย์คนแรกด้วยซ้ำ ถึงแม้จะมีหลักปฏิบัติที่อาจต่างกันตามยุคสมัย แต่มีเนื้อแท้และแกนสารความเชื่อคือหนึ่งเดียว ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนั่นคือ การเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์และห่างไกลจากการเคารพบูชาสิ่งอื่นใดนอกจากพระองค์
เนื่องจากไม่มีผู้ใดทรงรอบรู้เกี่ยวกับชีวิตและไม่มีผู้ใดประกาศว่าตนเองเป็นผู้สร้างชีวิต นอกจากอัลลอฮ์พระผู้ทรงสร้างชีวิต ดังนั้น ด้วยความเมตตาของพระองค์ จึงมอบวิถีชีวิตนี้ให้มนุษย์ยึดเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง พระองค์ไม่ทรงสร้างมนุษย์ แล้วปล่อยให้มนุษย์โดดเดี่ยว ค้นหาลองผิดลองถูก เพื่อกำหนดวิถีชีวิตบนโลกนี้เองตามลำพัง เพราะทฤษฎีชีวิตที่คิดค้นโดยมนุษย์ ไม่สามารถตอบโจทย์ให้แก่มนุษย์ด้วยกันเอง มนุษย์เป็นเพียงสาเหตุที่ทำให้ชีวิตเกิดขึ้นผ่านการปฏิสนธิเท่านั้น แต่มนุษย์ไม่ใช่เจ้าของชีวิตที่แท้จริง นอกจากนี้มนุษย์ยังมีข้อจำกัดทางความรู้เรื่องราวของมนุษย์อีกด้วย จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะกำหนดวิถีชีวิตให้มนุษย์ทั้งโลกนำไปปฏิบัติได้
อิสลามเป็นคําสอนที่อัลลอฮ์ได้กําหนดเป็นวิถีการดำเนินชีวิตแก่มวลมนุษยชาติในโลกนี้ ไม่ใช่คําสอนที่ถูกกําหนดมาเพื่อเฉพาะกลุ่มชนชาวอาหรับเท่านั้น เพียงแต่ว่าศาสนทูตมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นชาวอาหรับ จึงเริ่มเผยแพร่จากถิ่นที่อยู่ของท่านและได้ขยายออกสู่ดินแดนต่าง ๆ ของโลก บนหลักการว่า “ไม่มีการบังคับในศาสนา” และการบังคับให้รับนับถืออิสลาม ไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม จะถือเป็นการกระทำที่โมฆะทันที เพราะอิสลามเชื่อว่าการบังคับ ไม่มีผลใด ๆ ต่อการศรัทธาทางจิตใจ แม้นว่าต้องใช้กองกำลังบังคับขู่เข็ญมากมายสักปานใดก็ตาม
ด้วยเหตุที่อิสลามเป็นศาสนาแห่งมนุษยชาติ อิสลามจึงประกอบด้วยคำสอนที่ผสมผสานระหว่างความมั่นคงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงและความยืดหยุ่นซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยและสถานที่ มีความสมบูรณ์และครอบคลุมในทุกมิติของชีวิต มีดุลยภาพและความเป็นสายกลาง มีความชัดเจนและจับต้องได้ มีความสมดุลระหว่างภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ มีการวางน้ำหนักที่เท่าเทียมกันระหว่างการใช้ชีวิตบนภพโลกกับภพหลังความตายอย่างมีนัยสำคัญ
โดย ทีมวิชาการ