เหตุการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยเฉพาะวันอาทิตย์ที่ 23/2/2020 ได้สร้างความสับสนแก่ประชาชนชาวมาเลเซียทั่วประเทศ ที่มีรถหรูหลายคันพร้อมรถนำขบวนเข้าออกที่ Istana Negara กลายเป็นที่สนใจของนักข่าวทั้งในและต่างประเทศ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
ต่อมา ในช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 24/2/2020 ชาวมาเลเซียทั้งประเทศได้รับข่าวด่วนว่านายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประธานพรรค BERSATU
หลังจากที่ Pakatan Harapan ซึ่งเป็นแนวร่วมพรรคฝ่ายค้านก่อนการเลือกตั้งครั้งที่ 14 ที่นำโดย ดร. เอ็ม สามารถคว่ำรัฐบาล BN ที่ผูกขาดอำนาจปกครองมาเลเซียมานานถึง 61 ปี ชนิดหักปากกาเซียนมาแล้ว
แต่รัฐนาวาของ PH ที่สามารถยึดปุตตราจายาได้สำเร็จเมื่อ พฤษภาคม 2018 ก็ไม่สามารถโลดแล่นได้อย่างราบรื่น จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่ากลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อตอนบ่ายของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (ดู https://www.theustaz.com/?p=2992)
นักวิเคราะห์การเมืองเชื่อว่า เหตุผลของการลาออกสะเทือนวงการครั้งนี้ น่าจะมาจากอาการไม่ปกติของพรรคร่วมรัฐบาลที่ประกอบด้วย BERSATU, PKR,DAP, Amanah และ Warisan พร้อมกับการรุกคืบของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ใช้ประตูหลังฟอร์มทีมรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่ง ดร. เอ็มไม่เห็นด้วย
ท่ามกลางกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลมองหน้ากันไม่สนิท เมื่อพรรค Pas ได้ออกแถลงการณ์ว่า Pas พร้อมสนับสนุน ดร. เอ็ม เป็นนายกรัฐมนตรี หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้น
อุณหภูมิทางการเมืองยิ่งร้อนแรงเมื่อพรรคแนวร่วมรัฐบาล เริ่มใช้เสียงดังทวงคืนสัญญาที่ ดร. เอ็ม เคยให้ไว้ตอนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใหม่ๆว่า หลังจากดำรงตำแหน่ง 2 ปี ก็จะมอบตำแหน่งนี้ให้แก่นายอันวาร์ อิบรอฮิมต่อ
ด้วยสัญญานี้ ทำให้ ดร. เอ็ม ที่สามารถกวาดที่นั่งเข้าสภาเพียง 13 ที่นั่งได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 7 เทียบกับ PKR(47),DAP(42),Amanah(11), และ Warisan(8) ในคราวเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่ 14 ที่ผ่านมา
ดร. เอ็ม ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตนพร้อมสละตำแหน่งนี้ตามสัญญา หลังประชุมสุดยอด APEC ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2020 แต่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลคลางแคลงใจและเริ่มกดดันให้ ดร. เอ็มกำหนดวันเวลาที่แน่นอนเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ที่รอคอย
ท่ามกลางความโกลาหลวุ่นวาย ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2020 แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านประกอบด้วย UMNO,Pas,MIC และ PBRS แอบย่องใช้ประตูหลัง เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีเสนอจัดตั้งรัฐบาล Perikatan Nasional (พันธมิตรแห่งชาติ) ด้วยฐานเสียง สส. ที่การันตีว่ามีอยู่ในมือจำนวน 138 เสียงพร้อมยืนยันสนับสนุน ดร. เอ็ม เป็นนายกรัฐมนตรี
สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด เมื่อมีกลุ่มงูเห่า 11 คน จาก PH ซึ่งเป็นเด็กในคาถาของพรรค PKR ประกาศถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมเตรียมซบพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ทำให้แกนนำพรรครัฐบาลบางคนกล่าวหาว่าเป็นการกระทำที่ทรยศทีเดียว
ช่วงนี้มีรายชื่อโพล คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะประกาศโดยพระราชาธิบดีได้ออกมาเป็นระยะๆ ท่ามกลางเสียงดีใจชื่นมื่นจากพรรคร่วมฝ่ายค้านและกลุ่มงูเห่า
มีหลายฝ่ายมองว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นความพยายามทำรัฐประหารเงียบที่นำโดยพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อสกัดและทำลายฐานอำนาจของ PH และ DAP โดยใช้ ดร. เอ็ม เป็นเครื่องมือ
แต่เหตุการณ์ในตอนบ่ายของวันที่ 24 กพ. ทำให้ทุกอย่างพลิกผัน เมื่อ ดร. เอ็ม ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประธานพรรค BERSATU
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียทรงรับและเห็นชอบการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ ดร. เอ็ม แต่คล้อยหลังเพียงไม่กี่นาที พระองค์ทรงแต่งตั้ง ดร. เอ็ม เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ
การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ทำให้ตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆตั้งแต่รองนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีและตำแหน่งอื่นๆที่เกี่ยวข้องต้องสิ้นสภาพไปด้วย
แกนนำพรรค PKR,DAP และ Amanah ได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนให้ ดร. เอ็ม เป็นนายกรัฐมนตรีพร้อมเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีเพื่อให้คำยืนยัน
แม้กระทั่งแกนนำพรรค BN,Pas พรรคจากซาบาห์ซาราวัคและกลุ่มงูเห่า PKR ก็ยืนยันสนับสนุน ดร. เอ็ม เป็นนายกรัฐมนตรีเช่นกัน
แต่สถานการณ์กลับพลิกผันเหมือนหนังคนละม้วน เมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีทรงรับสั่งให้สมาชิก สส. ทั้งหมดรวม 221 คนเข้าเฝ้าในตอนเย็นวันที่ 25 กพ. 2020 เพื่อสัมภาษณ์รายบุคคลว่า จะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งในรอบแรกมี สส. เข้าเฝ้า 90 คน (ดู https://www.theustaz.com/?p=3016)
หลังจากนั้นไม่นาน พรรคร่วมฝ่ายค้านรีบออกแถลงการณ์กลับลำ ถอนคำยืนยันที่เคยสนับสนุน ดร. เอ็ม พร้อมกดดันให้พระราชาธิบดีคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการยุบสภาและถือว่าการเรียกสัมภาษณ์ สส. รายบุคคลเพื่อคัดเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นการกระทำที่ผิดครรลองประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เพียง 2 วัน พรรคร่วมฝ่ายค้านใช้แผนปฏิวัติเงียบด้วยการใช้ประตูหลังเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่แพ้การเลือกตั้ง ซึ่งน่าจะเป็นการกระทำที่ผิดครรลองประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน
(ดู https://www.facebook.com/180273065421411/posts/2731429043639121/?d=n)
หลังการสัมภาษณ์รายบุคคลรอบ 2 เสร็จสิ้น ล่าสุด ช่วงเย็นในวันที่ 26/2/2020 ดร. เอ็ม ได้ออกคำแถลงการณ์ครั้งแรก เผยหากมีโอกาสขออาสาจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ที่ไม่สังกัดฝ่ายใด พร้อมขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายทางการเมือง วอนให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง
(ดู https://www.facebook.com/180273065421411/posts/2733000660148626/?d=n)
หลังจากนั้น ไม่ถึงชั่วโมง นายอันวาร์ อิบรอฮิม นำแกนนำพรรค PH แถลงข่าวประกาศว่า พรรค PH เสนอชื่อ นายอันวาร์ อิบรอฮิม เป็นนายก รมต. คนที่ 8 ของมาเลเซียต่อไป พร้อมยืนยันว่าไม่สนับสนุนจัดตั้งรัฐบาลโดยใช้ประตูหลัง
(ดู https://www.facebook.com/180273065421411/posts/2733055020143190/?d=n)
ต้องเฝ้าดูว่า เส้นทางของนายกรัฐมนตรีคนที่ 8 จะไปต่อหรือเริ่มนับใหม่ด้วยการยุบสภา
Wait & See