อีหร่านเดือดหลังสุไลมานีโดนสังหารที่สนามบินอิรักพร้อมสมุนใกล้ชิดอีกอย่างน้อย 4 ราย ในขณะที่อาบูตารีกาห์ยืนยัน ถึงเวลาที่สหรัฐฯเปลี่ยนอะไหล่ชิ้นใหม่ในเกมส์ที่สุดสกปรก
ช่วงเช้าวันที่ 3 มกราคม 2563 ตามเวลาที่อิรัก พลตรีคาซิม สุไลมานี วัย 62 ปี ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในอิหร่าน รองจากอะยาโตลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ถูกสังหารด้วยโดรนทิ้งระเบิดโจมตีตามคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์แห่งสหรัฐฯ พร้อมผู้ใกล้ชิดอย่างน้อยอีก 4 ราย ที่สนามบินในกรุงแบกแดดหลังจากเดินทางกลับจากซีเรียและเลบานอน
พลตรี คาซิม สุไลมานี คือผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษอัลกุดส์ของอิหร่าน ผู้อยู่เบื้องหลังปฎิบัติการนองเลือดในตะวันออกกลางโดยเฉพาะที่อีรัก ซีเรียและเลบานอน
เตหะรานข่มขู่ที่จะตอบโต้อย่างรุนแรงในขณะที่เครือข่ายแกนนำชีอะฮ์ที่อิรักเลบานอนและเยเมน ต่างออกมาข่มขู่ที่จะตอบโต้สหรัฐฯเช่นเดียวกัน
ตำนานนักฟุตบอลแห่งเมืองฟาโรห์ อบูตารีกาห์ เขียนในทวิตส่วนตัวกรณีการสังหารครั้งนี้ว่า ซาตานได้สังหารฆาตกรบนแผ่นดินอาหรับและในประเทศอิสลาม โอ้อัลลอฮ์ ได้โปรดปกป้องอิรัก และได้โปรดทำลายผู้อธรรมด้วยฝีมือผู้อธรรม โปรดให้เราปลอดภัย สหรัฐฯได้เวลาเปลี่ยนอะไหล่ในเกมส์อันสกปรกของเขา ที่ท้ายสุดแล้ว เหยื่อที่แท้จริง ไม่พ้นประชาชาติมุสลิมและประเทศอิสลาม
ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปีที่อิหร่านประกาศสงครามกับสหรัฐฯและกล่าวหาสหรัฐฯว่าเป็นซาตานที่ยิ่งใหญ่ แต่ในปัจจุบันพบว่า ฝ่ายที่ได้รับความเสียหายครั้งรุนแรงที่สุดคือประชาชาติอิสลาม
เขียนโดย ทีมข่าวต่างประเทศ