เมาลานา อิสลาห์ บุษกร ผู้อยู่ในความมืดที่สว่างไสว
มุสลิมเชื้อสายจีนดั้งเดิมที่บรรพบุรุษเดินเท้าเข้ามาตั้งรกรากในอำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่องสอน
จากเด็กชายที่มีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาจนกระทั่งอายุ 8 ขวบก็สูญเสียการมองเห็นทั้งสองข้าง ถึงแม้ดวงตาจะมืดมิด แต่เขาพบกับเส้นทางอันสว่างไสว
เด็กชายอิสลาห์ บุษกร จึงเริ่มสนใจท่องจำอัลกุรอานอย่างจริงจังจนสามารถท่องจำทั้งเล่มในวัยเพียง 11 ปี
เขาเดินทางไปศึกษาต่อที่สถาบันอิสลามเฉพาะทางสำหรับผู้พิการทางสายตาที่ประเทศแอฟริกาใต้ ใช้เวลาเรียนอยู่ที่นั่น 8 ปี ระหว่างเรียนได้สร้างชื่อเสียงด้วยการเป็นตัวแทนของแอฟริกาใต้ไปแข่งขันในเวทีระดับสากลและได้รับรางวัลชนะเลิศการท่องจำอัลกุรอานที่กรุงเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบียเมื่อ ปี ค.ศ.2005
ปัจจุบัน เมาลานาอิสลาห์ บุษกร กำลังดำเนินการเปิดสอนโรงเรียนเฉพาะทางสำหรับผู้พิการทางสายตาที่บ้านเกิดตัวเองที่อำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่องสอน
อิสลามคือศาสนาที่ข้ามโพ้นด้านความแตกต่างด้านชาติติพันธุ์ ตั้งแต่เริ่มแรกของการประกาศอิสลามของท่านนบีมูฮัมมัด صلى الله عليه وسلم ที่นครมักกะฮ์ ท่านสามารถรวบรวมทาสจากเอธิโอเปีย หนุ่มผู้ระเหเร่ร่อนจากเปอร์เซีย คหบดีที่มาจากกรุงโรมและกลุ่มชนจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ทั่วคาบสมุทรอาหรับ มาร่วมพัฒนาและสร้างความเจริญภายใต้ธงแห่งอิสลามด้วยความรักและให้เกียรติระหว่างกัน
อิสลามเกิดขึ้นที่อาหรับก็จริง แต่บรรดานักวิชาการระดับแนวหน้า ในทุกแขนงวิชาส่วนใหญ่แล้วมาจากบุคคลที่ไม่ใช่มีชาติพันธุ์อาหรับ
อิสลามถือว่าการติดกับดักกับความภูมิใจในชาติพันธุ์ของตนอย่างเลยเถิด จนกระทั่งมองข้ามหรือดูแคลนชาติชาติติพันธ์ุอื่น ถือเป็นแนวทางของคนสิ้นคิดตามแบบฉบับของชาวอวิชชา
กรณีของ เมาลานาอิสลาห์ บุษกรคือตัวอย่างที่ชัดเจนที่ยืนยันว่า อิสลามจะยังคงอยู่และเผยแพร่ในประเทศนี้จนกระทั่งวันกิยามะฮ์
อัลกุรอานจะได้รับการปกป้องรักษาเหนือแผ่นดินนี้ ถึงแม้จากผู้พิการทางสายตาก็ตาม และถึงแม้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา จะชิงชังก็ตาม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่…
https://www.facebook.com/manoch.aree/posts/1980038008738968
เขียนโดย ผศ.มัสลัน มาหะมะ
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก Manoch Aree
ขอบคุณวีดีโอจาก งาน Thailand Halal Assembly 2019