จากเมือง urumqi เมืองหลวงของมณฑลซินเจียง เรามุ่งหน้าต่อไปยังเป้าหมายเมือง Karamay (เคอลามาอี้, قاراماي) เมืองตอนเหนือของ urumqi ใกล้เทือกเขา Altay ตลอดระยะทาง 300 กว่ากิโลเมตร
เราพบกับถนน 4 เลนสภาพดีมาก ถนนเรียบ ผ่านด่านตรวจบ้าง แต่ไม่ถี่เท่าสามจังหวัดภาคใต้ (ตำรวจที่นี่ดูเอาเรื่องเหมือนกันครับ ที่ด่านตรวจ อารมณ์คล้ายบ้านเราใส่ชุดพร้อมปฏิบัติการพิเศษ ในเมืองเคอลามาอี้ จะเห็นตำรวจเดินลาดตระเวนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เดินเรียงแถวเหมือนเป็นหุ่นยนต์ คนหน้ามีโล่ในมือ สองคนหลังถือไม้ตะบองยาว) ในเขตปกครองตนเองซินเจียง แถวลาดตระเวนตำรวจ 3 นายเดินเรียงทำนองนี้ พบเห็นได้ค่อนข้างบ่อย หากพบบุคคลผิดสังเกต เช่นกรณีกรุ๊ปทัวร์ของเรา ที่มีสตรีมุสลิมะห์สวมฮิญาบหลายผืน ก็จะสอบถามข้อมูล มาสัมภาษณ์ผ่านไกด์ท้องถิ่นบ้าง สองข้างทางสู่เมืองเคอลามาอี้คือทุ่งเกษตรกรรมหลากชนิด ทั้งข้าวโพด แตงโม ถั่ว และอื่น ๆ คณะของเราผ่านภูมิประเทศคล้ายยุโรป และบางส่วนเป็นทรายแห้งแล้ง มีต้นไม้แห้ง ๆ คล้ายแถวตะวันออกกลาง
สิ่งที่น่าสังเกตทำให้พอเป็นคำตอบได้ราง ๆ ว่าทำไมจีนแผ่นดินใหญ่จึงหวงแหนและกำหนดนโยบายเข้มงวดกับเขตปกครองตนเอง Xinjiang อาทิ นโยบาย Go West คือ แท่นขุดเจาะน้ำมันใต้ดินหลายสิบแท่นที่เห็นตามรายทาง มันคือแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่มหาศาลในดินแดนแห่งนี้นี่เอง
เคอลาอี้มีสถานะเหมือนเป็นจังหวัดหนึ่งทางตอนเหนือของเขตปกครองตนเองซินเจียง ชื่อเคอลามาอี้มาจากสำเนียงภาษาอูยกูร์ ที่แปลว่า “Black oil” “น้ำมันดำ” ซึ่งหมายถึง ที่ตรงนี้คือ แหล่งน้ำมันใต้ดินลึก ลึกลงไปกว่า 5,000 เมตร ภายหลังการค้นพบแหล่งน้ำมันครั้งแรกราวปี 1955 อุตสาหกรรมขุดเจาะและผลิตน้ำมันจากแหล่งน้ำมันใต้ดินในเมืองนี้จึงขยายตัวต่อมา จนทำให้เคอลามาอี้กลายเป็นจังหวัดที่มี GDP per capita (ผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อประชากร) สูงที่สุดจังหวัดหนึ่งในแผ่นดินจีนในปี 2008 (ข้อมูล Wikipedia)
แต่ที่น่าเศร้าใจคือ จากแผ่นดินของชาวอูยกูร์แต่เดิม ผลสำรวจสำมะโนประชากร ปี 2010 พบว่าประชากรที่อาศัยในจังหวัดนี้ 80% เป็นจีนเชื้อสายฮั่น (จีนแผ่นดินใหญ่) ขณะที่ชาวอูยกูร์ประชากรเหลือเพียง 10 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น เราจึงไม่รู้ว่าอูยกูร์ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ที่ซ่อนตัวอยู่ในดินแดนนี้ยังคงแสดงอัตลักษณ์ของตนเองได้เพียงใด ที่แน่ ๆ คือ ร้านอาหารที่ป้ายเขียนว่า “ฮาลาล” มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แทบทุกร้าน
และแน่นอน เมื่อเดินทางมาถึงโรงแรมที่พัก พวกเราจึงต้องผ่านด่านสแกนสัมภาระอีกครั้ง
มาเมืองจีนต้องทำใจสองอย่าง
- คนจีนชอบพูดเสียงดัง และมักตะโกนข้ามหัวเป็นเรื่องปกติ
- ห้องน้ำ เกือบเหมือนกันทุกที่ มีทั้งศิลปกรรมตกค้าง และ aroma induce vomiting ต้องกลั้นหายใจแล้วมุ่งหน้าทำภารกิจให้เสร็จอย่างรวดเร็ว
———————————
- นโยบาย Go West : Go West Policy หรือนโยบายมุ่งสู่ตะวันตก แปลแบบที่เราเข้าใจคือ กลืนอูยกูร์ นั่นเอง ส่งความเจริญ ส่งคมนาคม ส่งทหาร และดูดกลับทรัพยากรสู่แผ่นดินใหญ่ กดขี่ประชาชน กักขังอิสรภาพและอัตลักษณ์ชาวอูยกูร์
เขียนโดย ลาตีฟี