สัญญาณของพระองค์เพื่อให้มนุษย์หวาดกลัว

ความจริงโลกต้องการพักผ่อน
โลกต้องการชำระล้างสิ่งปฏิกูล ทั้งรูปธรรมและนามธรรม
โลกต้องการให้มนุษย์หยุดพักการกระทำบาป
โลกต้องการชะลอความเสียหายที่เต็มทั้งบนบกและในทะเลที่เป็นน้ำมือของมนุษย์
โลกต้องการให้มนุษย์ที่อาศัยอยู่บนมันขณะนี้ ได้สำนึกตนสู่ความเป็นบ่าวที่นอบน้อมและเชื่อฟัง
โลกต้องการสอนให้มนุษย์หยุดความเหิมเกริมและจองหอง อวดดีว่า ตนมีความยิ่งใหญ่และมีอำนาจ
โลกต้องการให้บทเรียนว่า แท้จริงมนุษย์ช่างอ่อนแอและจนปัญญา เมื่อต้องเผชิญกับอำนาจของพระองค์

وما نرسل بالآيات إلا تخويفا
และเราไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ เว้นแต่เพื่อสร้างความหวาดกลัว (อัลอิรออฺ/59)

อิมามอัฏฏอบารีย์ได้เล่าจากเกาะตาดะฮ์ว่า : แท้จริงอัลลอฮ์ต้องการให้มนุษย์เกิดความหวาดกลัวด้วยส่งสัญญาณความยิ่งใหญ่ตาางๆที่พระองค์ทรงประสงค์ ครั้งหนึ่งเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองกูฟะฮ์ในสมัยอับดุลลอฮ์ อิบนุมัสอูด ท่านจึงกล่าวว่า โอ้มนุษย์ทั้งหลาย แท้จริงอัลลอฮ์ทรงต้องการตำหนิพวกท่าน ดังนั้นท่านทั้งหลายจงตำหนิตัวเองเถิด การตำหนิตัวเองด้วยการวอนขอความพึงพอใจจากพระองค์ ยับยั้งความกริ้วโกรธของพระองค์ด้วยการขอลุแก่โทษและอิสติฆฟาร์(กล่าวขออภัยจากพระองค์)

การโกหกที่กระจายไปถึงสุดขอบฟ้า

นบีมูฮัมมัด (ขออัลลอฮ์ประทานพรอันประเสริฐและสันติสุขแด่ท่าน) กล่าวว่า (ตามคำบอกของญิบรีล) ส่วนผู้ชายที่ท่านเห็นในฝันนั้น ทั้งกราม รูจมูกและดวงตาของเขา จะถูกดึงกระชาก(ด้วยตะขอ)ไปจนถึงต้นคอ เนื่องจากเขาออกจากบ้าน แล้วพูดโกหกเพียงครั้งเดียวที่กระจายไปจนถึงสุดขอบฟ้า

หะดีษนี้ เป็นการแจ้งข่าวร้ายสำหรับคนที่ชอบโกหก โดยที่การโกหกของเขา ได้กระจายไปทั่วโลก ซึ่งก่อนที่โลกจะมีความเจริญทางเทคโนโลยีเช่นปัจจุบัน คนส่วนใหญ่อาจจะนึกไม่ถึงว่า โกหกครั้งเดียวจะกระจายไปทั่วโลกได้อย่างไร แต่เมื่อถึงยุคสื่อโซเชียลในปัจจุบัน ทุกคนรู้ซึ้งว่าแต่ละคนสามารถกระจายข่าวคราวไปทั่วโลกแค่ไหน ปัจจุบันเราเป็นทั้งผู้เสพและผู้สื่อข่าวโดยไม่รู้ตัว

การโกหกที่อันตรายและสร้างบาปใหญ่ที่สุดคือการโกหกต่ออัลลอฮ์และรอซูล นบีฯกล่าวว่า “ใครโกหกใส่ฉันโดยเจตนา เขาจงสำรองที่นั่งในนรก” (รายงานโดยอัลบุคอรี/1229)

ทุกคน ไม่ว่าผู้รู้หรือผู้ไม่รู้ ควรตระหนักเรื่องการโกหกแล้วนำไปเผยแพร่ในโลกโชเชียล โดยเฉพาะการโกหกใส่นบีฯ แอบอ้างว่าเป็นคำพูดและการกระทำของนบี ทั้งๆที่นบีฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ แถมไปเผยแพร่ไปในสื่อโชเชียลที่กระจายไปทั่วโลก คนประเภทนี้ แทนที่จะรับผลบุญ เขาจะได้รับโทษอันสาหัสในวันอาคิเราะฮ์ตามที่ระบุในหะดีษข้างต้น

والله الموفق والهادي إلى سواء السبيل
وصلى الله وسلم على نبينا محمد وعلى آله وصحبه والحمد لله رب العالمين

โดย ผศ. มัสลัน มาหะมะ

KM.QM โรงเรียนอัลกุรอานและภาษากาลามุลลอฮฺ ขอบคุณ theustaz.com

สืบเนื่องจาก KM.QM โรงเรียนอัลกุรอานและภาษากาลามุลลอฮฺ ได้รับรางวัลที่ 1 ในการประกวด “วัยรุ่นวุ่นอัลกุรอาน” ครั้งที่ 2

โดยได้รับรางวัลเงินสดจำนวน 2,000 บาท เอื้อเฟื้อโดย อารีฟีน เบ็ญหาวัน น้องๆทั้ง 7 คนได้ฝากขอบคุณทีมงาน และ อารีฟีน เบ็ญหาวัน มา ณ โอกาสนี้

نسأل الله لنا ولكم التوفيق والنجاح في الدارين

ประกาศเข้าร่วมโครงการวัยรุ่นวุ่นอัลกุรอาน ครั้งที่ 3

theustaz.com ขอประกาศโครงการวัยรุ่นวุ่นอัลกุรอานครั้งที่ 3 ประจำเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งซูเราะห์ที่ได้รับการคัดเลือกให้ทีมที่เข้าร่วมแข่งขันท่องจำคือ ซูเราะห์อัลกะฮฟี อายะฮ์ที่ 1-16 รายละเอียดและเงื่อนไขมีดังนี้

1. เปิดกว้างสำหรับเยาวชนมุสลิมทั้งชายและหญิง
2. ทีมที่เข้าร่วมจะต้องมีสมาชิกอย่างน้อยทีมละ 7 คน
3. สมาชิกในทีมทุกคนต้องอ่านแบบท่องจำอายะฮ์ ตั้งแต่ 1-16 ของซูเราะห์อัลกะฮ์ฟี โดยที่ทุกคนในทีมต้องอ่านอายะฮ์ ดังกล่าว 1 เที่ยวจบ (แต่ละคนอ่านเรียงกันจนจบ)
4. อัดคลิปวิดิโอ ส่งไปยัง theustaz.com หรือ email : [email protected] ภายในวันที่ 30 มี.ค. นี้
5. ประกาศทีมชนะเลิศวันที่ 1 เม.ย. 63 พร้อมรางวัลเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท

ทีมชนะประกวด “วัยรุ่นวุ่นอัลกุรอาน” ครั้งที่ 2

ตามที่ theustaz.com ประกาศจัดประกวด “วัยรุ่นวุ่นอัลกุรอาน” ครั้งที่ 2 โดยให้เยาวชนท่องจำ ซูเราะห์ อัลอินซาน (ซูเราะห์ลำดับที่ 76) (ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2563) นั้น ปรากฏว่ามีทีมที่ส่งคลิปจำนวน 2 ทีม ได้แก่ ทีม KM.QM โรงเรียนอัลกุรอานและภาษากาลามุลลอฮฺ และ Qmep โรงเรียนอุดมศาสน์วิทยา โดยทีมที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ ตัดสินให้ชนะในการประกวดครั้งนี้คือ KM.QM โรงเรียนอัลกุรอานและภาษากาลามุลลอฮฺ พร้อมคว้ารางวัลเงินสดจำนวน 2,000 บาท โดยผู้อนุเคราะห์เงินรางวัลครั้งนี้ คืออารีฟีน เบ็ญหาวัน จึงถือโอกาสขอบคุณ และขอให้อัลลอฮ์ทรงตอบแทนทุกท่านด้วยความดีงาม وجزاكم الله خيرا

theustaz.com ขอแสดงความยินดีกับทีมที่ชนะการประกวดครั้งนี้ และขอบคุณทีมที่มีส่วนร่วมส่งผลงานครั้งนี้ theustaz.com ขอเป็นตัวแทนจัดโครงการนี้ให้ต่อเนื่องประจำทุกเดือนตลอดปีนี้ โดยจะประชาสัมพันธ์ในโอกาสต่อไป อิน ชาอฺ อัลลอฮ์

มหัศจรรย์ ภูเขาสายรุ้งแห่งกานซู ตอกย้ำความจริงของอัลกุรอาน

ภูเขาหินแดงตันเซี๋ย (Danxia) คือ ภูเขาหินทรายที่ก่อตัวเป็นระยะเวลามายาวนานเป็นร้อยล้านปี สีสันต่างๆ ผ่านช่วงเวลาและสภาพแวดล้อมในสภาวะที่แตกต่างกันขัดเกลาจนเป็นริ้วสีที่สวยงาม และขณะนี้ สวนหินแดงตันเซี๋ย ก็ได้เป็นมรดกโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อัลลอฮ์ได้กล่าวในอัลกุรอาน (ซูเราะฮ์ฟาฏิร/27) ความว่า
“เจ้ามิได้พิจารณาดอกหรือว่า แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงให้น้ำหลั่งลงมาจากฟากฟ้า แล้วเราได้ให้พืชผลงอกเงยออกมาด้วยกัน (จากน้ำ) สีสันของมันแตกต่างกันไป และในหมู่ภูเขาทั้งหลายมีชนิดต่าง ๆ ขาวและแดง หลากหลายสี และสีดำสนิท”

คำถามคือ นบีมูฮัมมัดรู้ได้อย่างไรว่า ภูเขามีสีสันสวยงามมากมาย ทั้งๆที่ท่านใช้ชีวิตในทะเลทราย และไม่มีตำราทางศาสนาเล่มใดพูดถึงมาก่อน

คำตอบคือ เพราะอัลกุรอานเป็นคำพูดของอัลลอฮ์ ผู้ทรงสร้างและรอบรู้ทุกสรรพสิ่ง นบีมูฮัมมัดเป็นเพียงผู้นำสารจากพระองค์เท่านั้น

จงคิดไตร่ตรองดูเถิด โอ้ผู้เรืองปัญญาทั้งหลาย

อ้างอิง : https://travel.mthai.com/world-travel/74368.html

ไม่มีผู้ใดดึงพวกมันมิให้ร่วงหล่น ยกเว้นอัลลอฮ์

أَلَمْ يَرَوْا إِلَى الطَّيْرِ مُسَخَّراتٍ فِي جَوِّ السَّماءِ مَا يُمْسِكُهُنَّ إِلَّا اللَّهُ إِنَّ فِي ذلِكَ لَآياتٍ لِقَوْمٍ يُؤْمِنُونَ

Tidakkah mereka memperhatikan burung-burung yang dimudahkan terbang di angkasa bebas, tidak ada yang menahannya selain dari Allah, sesungguhnya pada yang demikian itu benar-benar terdapat tanda-tanda ( kebesaran Allah swt ) bagi orang-orang yang beriman. ( An-Nahl: 79 )

บทสรุปชีวิตในอายะฮ์เดียว

ในซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์/177 อัลลอฮ์ได้วางกรอบชีวิตของผู้ยืนหยัดบนสัจธรรมและผู้ดำรงตนในฐานะผู้ยำเกรง ที่ได้รับประกันว่าเป็นผู้มีความสำเร็จทั้งโลกนี้และอาคิเราะฮ์

177. หาใช่คุณธรรมไม่ การที่พวกเจ้าผินหน้าของพวกเจ้าไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก แต่ทว่าคุณธรรมนั้นคือผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และวันปรโลก และศรัทธาต่อมลาอิกะฮ์ ต่อบรรดาคัมภีร์และนะบีทั้งหลาย และบริจาคทรัพย์ทั้งๆ ที่มีความรักในทรัพย์นั้น แก่บรรดาญาติที่สนิทและบรรดาเด็กกำพร้า และแก่บรรดาผู้ยากจนและผู้ที่อยู่ในการเดินทาง(*1*) และบรรดาผู้ที่มาขอและบริจาคในการไถ่ทาส และเขาได้ดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และชำระซะกาต และ(คุณธรรมนั้น) คือบรรดาผู้ที่รักษาสัญญาของพวกเขาโดยครบถ้วน เมื่อพวกเขาได้สัญญาไว้ และบรรดาผู้ที่อดทนในความทุกข์ยาก และในความเดือดร้อน(*2*) และขณะต่อสู่ในสมรภูมิ ชนเหล่านี้แหละคือผู้ที่พูดจริง และชนเหล่านี้แหละคือผู้ที่มีความยำเกรง

(1)  คือเมื่อเขาขาดเงิน
(2)  เช่นได้รับการเจ็บป่วย หรือสูญเสียสิ่งที่ตนรัก

ซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์/177

2 พ่อลูกที่ประเสริฐที่สุด

เชื่อว่ามุสลิมทุกคน เมื่อชมคลิปนี้แล้ว จะเกิดความประทับใจและดีใจที่เห็น 2 คนพ่อลูกอ่านซูเราะฮ์กะฮ์ฟีในช่วงต้นได้อย่างคล่องแคล่ว โดยการท่องจำ โดยเฉพาะหนูน้อยที่อายุน่าจะไม่เกิน 3 ปี ที่อ่านอัลกุรอานอย่างมั่นใจและสนุกสนาน

คำถามคือ พวกเขาทำได้อย่างไร เราทำได้ไหม และเคยคิดที่จะทำตามหรือเปล่า

นี่คือการสร้างของอัลลอฮ์

นี่คือการสร้างของอัลลอฮฺ (*1*) ดังนั้น พวกเจ้าจงแสดงให้ข้า (อัลลอฮฺ) เห็นซิว่า อันใดเล่าที่เขาเหล่านั้นได้สร้างมันขึ้นมาอื่นจากพระองค์ แต่ว่าบรรดาผู้อธรรมต่างหากที่อยู่ในการหลงผิดอย่างชัดแจ้ง
ซูเราะฮฺ ลุกมาน (Luqman : 11)

(1)  คือสิ่งที่พวกเจ้า (มุชริกีน) เห็นอยู่กับตานั้น อัลลอฮฺเป็นผู้สร้างมัน พวกเจ้าจงพิจารณาใคร่ครวญดูชั้นฟ้าทั้งหลาย แผ่นดิน มนุษย์ พืชพรรณต่าง ๆ สัตว์ และสิ่งอื่น ๆ ที่อัลลอฮฺทรงสร้างมัน แล้วพิจารณาดูร่องรอยแห่งเดชานุภาพของพระองค์ และจงบอกข้า (อัลลอฮฺ) ด้วย