1 .โครงการช่วยเหลือเร่งด่วนจำนวน 6 ครั้งดังนี้
(รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 7,930,588 บาท)
2. เข้าร่วมสัมมนาระดับชาติและนานาชาติ
3. บรรยาย ให้ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับมัสยิดอักศอ, แผ่นดินปาเลสไตน์ ผ่านโรงเรียน และอ่านคุตบะฮ์ตามมัสยิดต่าง ๆ
4. ทำคลิป นำเสนอข่าว ,ข้อมูลเกี่ยวกับปาเลสไตน์และมัสยิดอักศอ ผ่าน เว็ปไซต์ , เฟสบุ้ค และยูทูป theustaz.com
5. พิมพ์หนังสือ “พายุแกร่งแห่งอักศอ” จำนวน 2,000 เล่ม
ทีมข่าว theustaz.com
.
รองศาสตราจารย์ ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ซึ่งได้รับเชิญในฐานะผู้แทนนักวิชาการอิสลามจากประเทศไทยเข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการ เรื่องเนื้อสัตว์ แมลงและอาหารดัดแปลงพันธุกรรมจากสัตว์ จัดโดยสถาบันฟิกฮ์อิสลามนานาชาติ (International Islamic Fiqh Academy : IIFA) ที่อยู่ภายใต้องค์การความร่วมมืออิสลาม (Organization of Islamic Cooperation : OIC) เพื่อให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ดังกล่าว ระหว่างวันที่ 24 – 25 กันยายน 2567 ที่เมืองเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายกิตินัย นุตกุล กงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ที่สถานกงสุลใหญ่ฯ
.
ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่ฯ และรองศาสตราจารย์ ดร. อิสมาอีลลุตฟีฯ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงหลักสูตรการศึกษาของมหาวิทยาลัยฟาฏอนีที่เปิดสอนระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก ปัจจุบัน มีนักศึกษาไทยและต่างชาติเรียนที่มหาวิทยาลัยฟาฏอนีรวมกว่า 50 ประเทศ จำนวนประมาณ 3,000 คน โดยมีนักศึกษาซาอุดีอาระเบียด้วย โดย รองศาสตราจารย์ ดร. อิสมาอีลลุตฟีฯ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยฟาฏอนีให้ความสำคัญกับหลักสูตรสันติวิทยา (Peace Studies) ซึ่งเป็นพื้นฐานของนักศึกษาทุกระดับ เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นระบบระเบียบ เคารพและเข้าใจกันซึ่งกันและกัน ทำให้ทุกคนได้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข
.
ทั้งนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. อิสมาอีลลุตฟีฯ ได้แสดงความขอบคุณกงสุลใหญ่ฯ ที่ให้การต้อนรับทางคณะด้วยดีตลอดมา ซึ่งทำให้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกันในประเด็นต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง
เครดิตเนื้อหาข่าวและภาพโดย : สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ – Thai Consulate Jeddah – قنصلية تايلاند بجدة
กลายเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียลมีเดียที่มาเลเซียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายจำนวน 287 นายสนธิกำลังตรวจค้นสำนักงานใหญ่ของกลุ่ม GISBH และได้จับกุมสมาชิกกลุ่มหลายร้อยคน ซึ่งเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับกรณีค้าและอนาจารเด็กตลอดจนการแอบอ้างศาสนาแสวงหาผลประโยขน์ของตนและพวกพ้อง
เมื่อวันที่ 11 กันยายน การกระทำผิดที่น่าตกตะลึงได้รับการเปิดเผยมากขึ้นเมื่อรายงานของสื่อระบุว่า GISBH เกี่ยวข้องกับการแสวงประโยชน์จากเด็กในสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม GISBH ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและยืนยันที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่แก่ตำรวจและกรมพัฒนาอิสลามแห่งมาเลเซีย (JAKIM)
GISBH คือใคร
กลุ่มธุรกิจเก็งกำไร GISBH เกิดจากความเชื่อมโยงกับกลุ่มอัรก็อมในอดีต ซึ่งก่อตั้งโดยอัชอะรี มูฮัมหมัด ผู้ล่วงลับไปแล้ว กลุ่มนี้ถูกทางการมาเลเซียยุบไปและถือเป็นกลุ่มผิดกฎหมาย ฐานเผยแพร่คำสอนที่บิดเบือนจากอิสลาม
ตามรายงานของ Free Malaysia Today (FMT) นายอัชอะรี เคยทำหน้าที่เป็นประธานของ Global Ikhwan Sdn. โดยจดทะเบียนก่อตั้งปี 2000 ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น GISB Holdings ปัจจุบันบริหารโดย Datuk Haji Nasiruddin Mohd Ali
โพสต์บน Facebook โดย GISB Holdings ยืนยันว่า Global Ikhwan ก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มที่ยังเคลื่อนไหวของอัลอัรก็อม โดยเฉพาะจากปีกธุรกิจของตน
กลุ่มอัรก็อม ถูกสภาฟัตวาแห่งชาติของมาเลเซียสั่งยุบในปี 1994 โดยผู้ก่อตั้ง นายอัชอะรีเคยถูกควบคุมตัวเป็นเวลาสองปีภายใต้พระราชบัญญัติความมั่นคงภายใน (ISA)
การรีแบรนด์อัรก็อม
ก่อนที่จะมาเป็น GISB Holdings กลุ่มนี้ได้ผ่านกระบวนการรีแบรนด์ โดยเริ่มแรกใช้ชื่อ Rufaqa Corp ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ GISB Holdings
Rufaqa Corp เคยใช้พื้นที่ภาคอันดามันของประเทศไทย เคลื่อนไหวผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการบันเทิงแนวอิสลามและการค้าธุรกิจในชุมชน ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างล้นหลามจากชาวมุสลิมในพื้นที่
ข้อมูลตามเว็บไซต์ GISB Holdings ระบุว่า บริษัทก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมวิถีชีวิตอิสลามในทุกด้าน รวมถึงการศึกษา ศิลปวัฒนธรรมและการปศุสัตว์ โดยเน้นย้ำว่าอัลลอฮ์ เป็นพลังอำนาจที่สมบูรณ์ที่ควรได้รับความเคารพและยำเกรง
GISBH: กลุ่มบริษัทที่มีบริษัทย่อย 25 แห่ง
ณ เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 กลุ่มบริษัทอิสลามเอกชนแห่งนี้ถือครองทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 325 ล้านริงกิต โดยมีสาขาธุรกิจ 415 แห่งกระจายอยู่ใน 20 ประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักร สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และฝรั่งเศส
GISBH มีพนักงานทั้งหมด 5,346 คนในบริษัทย่อย 25 แห่ง ซึ่งรวมถึงทรัพย์สินหลัก เช่น ร้านอาหารในลอนดอน ปารีส อิสตันบูล ดูไบและมักกะห์ ที่พักในประเทศตุรกี โรงแรมในซาราเยโว และฟาร์มขนาด 120 เอเคอร์ในเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย
จากข้อมูลของ Reserve Malaysia บริษัทสาขา 25 แห่งภายใต้ GISB Holdings ได้แก่:
กลุ่มธุรกิจในเครือข่าย GISB โดยกลุ่ม Ikhwan ได้เข้ามาตีตลาดในจังหวัดปัตตานี โดยเปิดร้านอาหารขนาดใหญ่ในใจกลางปัตตานี และเปิดสำนักงานใหญ่ตรงข้ามศูนย์การค้าชื่อดังของกลุ่มนักธุรกิจมุสลิม ที่ชานเมืองปัตตานี
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
GISBH : Kronologi & Perkembangan Terkini Kes GISB Holdings
APA ITU GISB? — PORTAL PERMOHONAN
โครงการกุรบ่านเพื่อกาซ่า ฮ.ศ. 1445
มูลนิธิเรือนร่างเดียวกันร่วมมือกับ Ghirass for Society Development สำนักงานใหญ่อิสตันบูลและองค์กรสาธารณกุศลกว่า 10 องค์กรทั่วโลกจัดโครงการกุรบานเพื่อกาซ่าปีฮ.ศ. 1445 โดยสามารถเชือดวัวกุรบานที่ประเทศอินเดียจำนวนรวมทั้งสิ้น 150 ตัว ในจำนวนนี้ มูลนิธิเรือนร่างเดียวกันได้ระดมเงินจากพี่น้องในประเทศไทยเพื่อมีส่วนร่วมทำกุรบ่านวัวจำนวน 6 ตัว เป็นเงินทั้งสิ้น 360,000 บาท ซึ่งเนื้อกุรบ่านดังกล่าวได้ผ่านการแช่แข็งและลำเลียงแจกจ่ายไปยังพี่น้องชาวกาซ่า เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา
الحمد لله الذي بنعمته تتم الصالحات
ในนามมูลนิธิเรือนร่างเดียวกันขอขอบคุณชาวมือบนทุกท่านที่มีส่วนร่วมจัดโครงการกุรบ่านเพื่อชาวกาซ่าปี ฮ.ศ. 1445 ครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับความร่วมมือด้วยดีอย่างต่อเนื่องในโอกาสต่อไป
جزاكم الله خيرا وتقبل الله منا ومنكم صالح الأعمال
#QURBAN4GZ1445 #THEONEBODYFOUNDATION #มูลนิธิเรือนร่างเดียวกัน
ส่งความช่วยเหลือแก่พี่น้องกาซ่าอย่างต่อเนื่องได้ที่
ธนาคารอิสลาม
เลขบัญชี : 054-1-25763-3
ชื่อบัญชี : กองทุนเรือนร่างเดียวกันเพื่อมนุษยธรรม
ธนาคารกสิกรไทย
เลขบัญชี : 172-3-89822-2
ชื่อบัญชี : มูลนิธิเรือนร่างเดียวกัน
ทีมข่าวต่างประเทศ
ผู้อุปถัมป์สองมัสยิดอันทรงเกียรติกษัตริย์ซัลมานแห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียทรงส่งสารแสดงความยินดีในโอกาสที่นายมัสอูด เปเซชเชียน เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่านถัดจากอิบรอฮีม รออีซีย์ ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่แวร์แซฆอน ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2567
ผู้นำสารดังกล่าวในฐานะผู้แทนพระองค์คือที่ปรึกษาของกษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย เจ้าชายดร.มันซูร์ บินมุตอิบบินอับดุลอาซิซ พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงการต่างประเทศ วะลีด บินอับดุลกะรีม อัล-คิรรีจีย์ และเอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบียประจำกรุงเตหะราน อับดุลเลาะห์ บินซะอูด อัล-อะนะซีย์ เพื่อเจริญความสัมพันธ์ทวิภาคีกับอิหร่านในระหว่างการต้อนรับของเปเซชเคียนเมื่อวันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2567 ที่ทำเนียบประธานาธิบดี กรุงเตหะราน
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ :
ทีมงานข่าวต่างประเทศ
28 กรกฎาคม 2567 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ผศ. มัสลัน มาหะมะ ประธานมูลนิธิเรือนร่างเดียวกัน พร้อมด้วยนายเมธา เมฆารัฐ รองประธานมูลนิธิฯ นายมูฮัมมัด สะแลแม นายอัชอารี เจ๊ะเลาะ คณะกรรมการบริหารมูลนิธิฯ และคณะกรรมการฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวปลสต. จำนวน 1,700,000 บาท ผ่าน AL-Quds Foundation -Malaysia โดยดร. ชารีฟ อบูชามาลา ประธานมูลนิธิฯเป็นผู้รับมอบ ณ เมืองอีโปะห์ รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย
โดยจะนำเงินจำนวนดังกล่าวจัดโครงการ 3 โครงการหลักคือ
1. สร้างเต้นท์ชั่วคราวจำนวน 35 หลัง
2. ซ่อมแซมบ่อน้ำเพื่ออุปโภคจำนวน 1 บ่อ
2. ซื้อน้ำดื่ม เพื่อแจกจ่ายแก่ครอบครัวผู้เดือดร้อนจำนวน 100-200 ครอบครัว
ซึ่งทั้ง 3 โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการทำความดีเพื่อมนุษยธรรมครั้งนี้ และขอให้อัลลอฮ์ตอบแทนทุกท่านด้วยความดีงาม
وجزاكم الله خيرا
8 มิถุนายน 2567
เวลา 10.30 น.
ผศ. มัสลัน มาหะมะ ประธานมูลนิธิเรือนร่างเดียวกันพร้อมคณะได้เดินทางไปยังสำนักงาน Kedamaian Kemanusiaan Berhad ตั้งอยู่ที่ B1-18-8 SOHO Suites KLCC, Kuala Lumpur, Malaysia ส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวกาซ่ารอบ 5 หลังปฏิบัติการพายุแกร่งแห่งอักศอ จำนวน 1,200,000 บาท โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานนายบิลาล เป็นผู้แทนรับมอบ
ประธานมูลนิธิเรือนร่างเดียวกันกล่าวว่า ภารกิจความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวกาซ่ารอบ 5 ครั้งนี้ เน้นสร้างเต้นท์ชั่วคราวจำนวน 30 หลังที่คานยูนุสและดีร์บาลาห์ พื้นที่ตอนกลางกาซ่า ซึ่งยังมีผู้อพยพไร้ที่พักเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังจัดกุรบานวัวจำนวน 10 ตัว โดยจะเชือดวัวที่ประเทศอินเดีย และจะลำเลียงส่งเนื้อกุรบานเข้าแจกจ่ายแก่ชาวกาซ่าภายในเวลา 30-40 วัน
“หลังเกิดยุทธการพายุแกร่งแห่งอักศอเมื่อเดือนตุลาคม 2023 มูลนิธิเรือนร่างเดียวกันได้จัดโครงการช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ชาวกาซ่า โดยได้ส่งมอบความช่วยเหลือมาแล้วจำนวน 4 รอบ รวมครั้งนี้รอบที่ 5 จำนวน 1,200,000 บาท รวมทั้งสิ้น 6,232,588 บาท
“ชาวกาซ่ากำลังเผชิญหน้ากับการทำลายล้างที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ที่ทุกฝ่ายต้องรีบให้ความช่วยเหลือทุกครั้งที่มีโอกาส ขอขอบทุกท่านที่ยื่นมือให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมครั้งนี้ وجزاكم الله خيرا ” ประธานมูลนิธิฯกล่าวทิ้งท้าย
ทีมข่าวต่างประเทศ
มูลนิธิเรือนร่างเดียวกันร่วมมือกับ Girass สร้างเต้นท์ที่พักชั่วคราวจำนวน 10 เต้นท์ สำหรับ 10 ครอบครัว ที่เขตราฟาห์ติดชายแดนอิยิปต์
ผศ. มัสลัน มาหะมะ ประธานมูลนิธิเรือนร่างเดียวกันกล่าวว่า เนื่องจากงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัด เรามีความจำเป็นสร้างเต้นท์ที่พักชั่วคราว ใช้งบประมาณหลังละ 500 ดอลล่าร์ โดยในแต่ละหลังสามารถจุสมาชิกในครอบครัว 10-15 คน ซึ่งต้องอาศัยอยู่อย่างแออัดมาก แต่ก็สามารถสร้างรอยยิ้มให้พี่น้องได้มาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ต้องอาศัยบนถนนโดยไม่มีอะไรปิดกั้นใด ๆ แม้กระทั่งช่วงฝนตกหรือสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ
โครงการนี้เป็นโครงการสืบเนื่องของการรณรงค์ #RAMADAN4UGAZA ที่ได้ดำเนินการก่อนหน้านี้แล้ว แต่เนื่องจากการสร้างเต้นท์ที่พักชั่วคราวเป็นโครงการนำร่องที่จำเป็นเร่งด่วน ทีมงานภาคสนามจึงได้จัดโครงการนี้ท่ามกลางข้อจำกัดมากมาย
จึงขอเชิญชวนพี่น้องให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางของมูลนิธิเรือนร่างเดียวกัน ประธานมูลนิธิฯกล่าวทิ้งท้าย
ทีมข่าวต่างประเทศ
14 พฤษภาคม 2567
รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ได้เข้าเยี่ยม ศ.ดร.อาลี อัรบาช ประธานกิจการศาสนาแห่งตุรเกีย พร้อมรายงานการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยฟาฏอนีและความคืบหน้าโครงการมะดีนะตุสสลาม และขอบคุณรัฐบาลตุรเกียที่อยู่เคียงข้างชาวปาเลสไตน์พร้อมสนับสนุนแนวทางแก้ไขวิกฤติด้านมนุษยธรรมที่ฆ็อซซะฮ์ มาโดยตลอด
พร้อมกันนี้ รศ. ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา ได้ขอบคุณในนามมหาวิทยาลัยฟาฏอนีต่อสำนักกิจการศาสนาแห่งตุรกี ที่เสนอ Dr. Selim Argun รองประธานสำนักกิจการศาสนา เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยฟาฏอนีชุดปัจจุบัน
โดย ทีมข่าวต่างประเทศ
ท่านจุฬาราชมนตรี อาจารย์อรุณ บุญชม ได้แสดงความยินดีกับศิษย์ร่วมสถาบันอธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฎอนี รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา เนื่องในโอกาสที่อธิการบดีมฟน. ได้รับ #รางวัลศิษย์เก่าผู้สร้างคุณูปการดีเด่น สาขานวัตกรรมแนวคิดสร้างสรรค์และผู้นำด้านการประกอบการ มหาวิทยาลัยอิสลามอัลมะดีนะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ในโอกาสนี้ท่านจุฬาราชมนตรีได้ดุอาให้รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา ได้รับเตาฟิกและความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์ในทุกภารกิจ มีพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมพัฒนาและสันติสุขสืบไป
ทั้งสองท่านมีโอกาสพบเจอในงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2567 โดยประธานาธิบดีแห่งตุรเกีย นายเราะญับ ตอยยิบ แอร์โดอานให้เกียรติเป็นเจ้าภาพ ณ ทำเนียบประธานาธิบดี ประจำอิสตันบูล พระราชวังโดลมาบาห์เช่
ท่านจุฬาราชมนตรี อาจารย์อรุณ บุญชมและอธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฎอนี รศ. ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียาในฐานะสองนักวิชาการอิสลามจากประเทศไทยที่ได้รับเชิญเข้าร่วม ประชุมสุดยอดอุละมาอฺโลกอิสลาม ในหัวข้อ “A Common Strategy of Discourse and Action against Extremism Threatening the Ummah” จัดโดย สำนักกิจการศาสนา สาธารณรัฐตุรเกีย (Diyanet) ณ Grand Cevahir Hotel กรุงอิสตันบูล ระหว่างวันที่ 13 – 14 พฤษภาคม 2567
ขออัลลอฮ์ประทานความง่ายดายแก่ท่านทั้งสอง ปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จลุล่วงด้วยเตาฟิกจากอัลลอฮ์และกลับสู่มาตุภูมิโดยสวัสดิภาพ
رافقتكم السلامة وفي رعاية الله
โดย ทีมข่าวต่างประเทศ
