สหพันธ์อุลามาอ์อิสลามนานาชาติ International Union of Muslim Scholars รวมถึง ศ.ดร.อาลี กอเราะฮ์ดาฆี เลขาธิการสหพันธ์ฯ ยืนยันว่า มาครงตกอยู่ในภาวะวิกฤติทางศีลธรรม และอิสลามไม่แบกรับความผิดพลาดของผู้นำจอมปลอมที่สร้างวิกฤตด้วยการช่วยเหลือของพวกเขา
وهناك فرق بين الذي يخدم الدين والذي يستخدم الدين لأن الذي يخدم الدين دائما يقف بجانب المظلوم لأن محاربة الظلم جوهر كل الأديان والذي يستخدم الدين دائما يقف بجانب الظالم لأنه في الحقيقة يتاجر بالدين لا غير
วัตถุประสงค์หลักของรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ วางรากฐานสำคัญสำหรับการดำเนินชีวิตที่สันติ สานสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชนเผ่าต่างๆ ที่หลากหลาย โดยเฉพาะชาวมุฮาญิรีน ชาวอันศอรฺ ชาวยิวและชนต่างศาสนิกอื่นๆ กำหนดสิทธิและหน้าที่ของประชาชาชน ผู้นำและรัฐในการสร้างสังคมสันติภาพ ตลอดจนประกาศความเป็นรัฐเอกราชและความเป็นผู้นำสูงสุดของนบีมุฮัมมัด صلى الله عليه وسلم
นัยตามมาตรานี้ ทำให้ชาวมุสลิมถึงแม้จะมาจากเผ่าพันธุ์ วงศ์ตระกูล เชื้อชาติและภาษาที่ต่างกัน แต่พวกเขามีความผูกพันกับสายใยอันเดียวกัน นั่นคือ อิสลาม และด้วยมาตรานี้ นบีมุฮัมมัด صلى الله عليه وسلم ได้ทลายกำแพงความเป็นท้องถิ่นนิยม ภาคนิยม ภาษานิยมและชาตินิยมอย่างหมดสิ้น พร้อมสร้างชาติพันธุ์ใหม่คือชาติพันธุ์อิสลาม ทุกคนกลายเป็นประชาชาติเดียวกันคือประชาชาติอิสลาม
การลงโทษผู้บิดพลิ้วสัญญา “ศรัทธาชนต้องลุกขึ้นต่อต้านโดยพร้อมเพรียงกันต่อทุกพฤติกรรมที่ส่อถึงการทรยศหักหลัง การสร้างศัตรูหรือสร้างความปั่นป่วนในสังคมมุสลิม ทุกคนต้องร่วมมือกันต่อต้านกับบุคคลที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ ถึงแม้จะเป็นลูกหลานใครก็ตาม” อาศัยมาตรานี้ นบีมุฮัมมัด صلى الله عليه وسلم ได้สั่งประหารชีวิตยิวเผ่ากุร็อยเซาะฮฺกลุ่มหนึ่งหลังสงครามอัลอะหฺซาบ(สงครามพันธมิตร) ซึ่งยิวกลุ่มนี้ได้เป็นไส้ศึกร่วมมือกับศัตรูในการโจมตีเมืองอัลมะดีนะฮฺ ถึงแม้พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอัลมะดีนะฮฺก็ตาม
การให้เกียรติแก่ทุกคนที่มุสลิมประกันความปลอดภัย “แท้จริงอัลลอฮฺจะประกันความปลอดภัยแก่ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แม้กระทั่งผู้ที่ต่ำต้อยที่สุดก็ได้รับสิทธินี้อย่างเสมอภาค ศรัทธาชนจะต้องร่วมมือประกันความปลอดภัยซึ่งกันและกัน” มุสลิมทุกคนสามารถประกันความปลอดภัยแก่ใครก็ได้ที่เขาต้องการไม่ว่าจะเป็นมุสลิมหรือไม่ก็ตาม และทุกคนในสังคมต้องเคารพการประกันความปลอดภัยนี้ ถึงแม้ผู้ประกันจะมาจากประชาชนธรรมดาผู้ต่ำต้อยก็ตาม และแม้กระทั่งผู้ประกันจะเป็นผู้หญิงก็ตาม ดังหะดีษหนึ่งที่นบีมุฮัมมัด صلى الله عليه وسلم ได้กล่าวแก่อุมมุฮานิว่า “แท้จริง ฉันจะประกันความปลอดภัยแก่ผู้ที่ท่านประกันความปลอดภัยแก่เขาโอ้ อุมมุฮานิ” (อัลบุคอรีย์/6158 และมุสลิม/336)
[หะดีษรายงานโดยอบูยะลาและอัลตอบารอนีย์ ในหนังสือ Sahih Al-Jami Al-Sagheer เลขที่ 3615 ]
รายงานจากจาบิรว่า ท่านศาสดา صلى الله عليه وسلم กล่าวกับ กะอับ บินอัจเราะฮ์ ว่า
أعاذك الله من إمارة السفهاء يا كعب”. قال: وما إمارة السفهاء؟ قال: “أمراء يكونون بعدي، لا يهدون بهديي ولا يستنون بسنتي، فمن صدقهم بكذبهم، وأعانهم على ظلمهم، فأولئك ليسوا مني ولست منهم، ولا يردون على حوض، ومن لم يصدقهم بكذبهم ولم يعنهم على ظلمهم، فأولئك مني، وأنا منهم، وسيردون على حوضي
خير أئمتكم ـ أي حكامكم ـ الذين تحبونهم ويحبونكم، وتصلون عليهم ـ أي تدعون لهم ـ ويصلون عليكم، وشرار أئمتكم الذين تبغضونهم ويبغضونكم، وتلعنونهم ويلعنونكم” (رواه مسلم عن عوف بن مالك).
Ibnu Desa 11 Safar 1442 (28/8/2020) Narathiwat Airport
เป็นการสะท้อนบรรยากาศในวันที่นบีมูฮัมมัด صلى الله عليه وسلم ได้จากโลกนี้ไปอย่างนิรันดร์ หลังจากที่ท่านได้ปฏิบัติภารกิจอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาเศาะฮาบะฮ์ที่รักท่านเหนือสิ่งใดในโลกนี้แม้กระทั่งชีวิต ท่านจากไปแล้ว แต่มรดกของท่านยังคงอยู่ตราบจนวันกิยามะฮ์ صلى الله عليه وسلم