อาคารครอบครัวอิบรอฮีม ศูนย์กลางศาสนาสากล

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สร้างศาสนสถานสำคัญ 3 ศาสนา อิสลาม คริสต์และยิวโดยตั้งชื่อว่า อาคารครอบครัวอิบรอฮีม (Abrahamic Family House) ประกอบด้วยมัสยิดที่หันไปทางกะอฺบะฮ์ โบสถ์ที่หันไปทางทิศตะวันออก และซินนะกอก(โบสถ์ยิว)ซึ่งหันไปทางกรุงเยรูซาเลม โดยทั้ง 3 อาคารครอบด้วยหลังคาที่มีลักษณะเหมือนกัน เริ่มก่อสร้างปี 2019 และคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2022 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี นอกจากนี้ยังมีอาคารแสดงนิทรรศการและประชุมสัมมนาอีก 1 อาคาร

คณะกรรมการภราดรภาพมนุษย์ (The Higher Committee of Human Fraternity) ได้ฉลองครบรอบ 1 ปี แห่งการลงนามแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยภราดรภาพมนุษย์ ณ กรุงอาบูดาบี เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2020 โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสแห่งศาสนจักรโรมันคาทอลิกและอิมามใหญ่แห่งอัลอัซฮัร ชัยค์อาห์มัด ตอยยิบ โดยมีชัยค์อับดุลลอฮ์บินซัยด์ อัลนะห์ยาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ให้เกียรติเป็นสักขีพยาน

คณะกรรมการภราดรภาพมนุษย์เป็นองค์กรอิสระที่ประกอบด้วยผู้นำทางศาสนา นักวิชาการด้านการศึกษา และผู้นำทางวัฒนธรรมจากทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมภราดรภาพมนุษย์ต่อคนทุกหมู่เหล่า มีภารกิจในการปฏิบัติตามปณิธานที่ระบุไว้ในแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยภราดรภาพมนุษย์ทั่วโลก ด้วยการจัดการประชุมร่วมกับผู้นำทางศาสนา ผู้นำขององค์กรระหว่างประเทศ และอื่น ๆ ทั่วโลก เพื่อส่งเสริมการดำเนินการที่จะสร้างโลกที่มีสันติภาพมากขึ้น เพื่อมนุษยชาติทั้งปวง คณะกรรมการภราดรภาพมนุษย์ยังจะทำงานเคียงข้างฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดตัวบทกฎหมายระดับประเทศ ที่เสริมสร้างความสำคัญของการเคารพซึ่งกันและกันและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการยังจะเข้ามาดูแลโครงการริเริ่มต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อปฏิบัติตามปณิธานที่ระบุไว้ในแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยภราดรภาพมนุษย์ เช่น อาคาร Abrahamic Family House ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นที่กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

อาคารครอบครัวอิบรอฮีม ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลก โดยเฉพาะนักวิชาการอิสลามสายอนุรักษ์ ที่มีทัศนะว่า การเชิญชวนให้ผู้คนมีความรักและปรองดองกัน ถือเป็นเจตนารมณ์ร่วมของชาวโลกและเป็นคำสอนหลักของศาสนา แต่การโน้มน้าวให้ผู้คนปฏิบัติตนในลักษณะเดียวกัน เป็นสิ่งที่ฝืนกับธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะอิสลามที่มีคำสอนในเรื่องเอกานุภาพของพระเจ้า ในขณะที่อาคารครอบครัวอิบรอฮีมได้แสดงถึงการมีต้นกำเนิดอันเดียวกันของศาสนา ทั้งๆที่ในความเป็นจริงนบีอิบรอฮีมไม่เคยเผยแพร่ให้มนุษย์สร้างภาคีต่อพระผู้เป็นเจ้า

ในขณะที่นักวิชาการอีกกลุ่มหนึ่งเห็นว่าอาคารครอบครัวอิบรอฮีมเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนให้ผู้คนยอมรับความแตกต่าง ใช้ชีวิตอย่างเป็นพี่น้องที่มีความรักและความเมตตาระหว่างกัน


โดยทีมข่าวต่างประเทศ

อ้างอิง https://www.ryt9.com/s/anpi/3092709

5 เหตุผลที่โลกควรสนใจตุรกี

1. ตุรกีเคยเป็นเมืองหลวงโลกอิสลามยุคอุษมานียะฮ์ที่ครอบคลุม 3 ทวีป มีเคาะลีฟะฮ์ปกครอง 36 พระองค์ นานกว่า 600 ปี และเพิ่งล่มสลายไปไม่ถึง 100 ปี

2. ตุรกีกำลังเข้าสู่อ้อมกอดของอิสลามในทุกมิติอีกครั้ง หลังจากถูกบังคับให้ถอดถอนอิสลามชนิดถอนรากถอนโคนด้วยวิธีเผด็จการและโหดร้ายที่สุด

3. ตุรกีปัจจุบัน มีศักยภาพในการแข่งขันกับสังคมโลกได้อย่างน่าทึ่ง และสามารถพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

4. ตุรกีคือแหล่งพักพิงของผู้อพยพจำนวนมากกว่า 5 ล้านคน และกลายเป็นที่พึ่งพาของของผู้ถูกอธรรมและผู้เดือดร้อนจากทั่วทุกมุมโลก

5. ตุรกีคือ 1 ในสมาชิกนาโต้ที่มีกองกำลังใหญ่โตมากเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ แต่กำลังถูกสมาชิกนาโต้และสหภาพยุโรปกดดันเพื่อให้ตุรกีกลายเป็นเด็กใต้โอวาทตลอดไป


โดยทีมข่าวต่างประเทศ

คนแรกในประวัติศาสตร์ผู้นำสหรัฐฯที่ถูกร้องถอดถอนจำนวน 2 ครั้ง

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯมีมติด้วยคะแนนเสียง 232 ต่อ 197 ถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยความผิดในข้อหาปลุกระดมมวลชนบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันพุธที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา เพื่อขัดขวางกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยจะส่งญัตตินี้ให้กับวุฒิสภาสหรัฐฯเพื่อพิจารณาเป็นลำดับต่อไปว่าจะเห็นชอบหรือคัดค้าน

15 มกราคม 2564

รินน้ำใจช่วยภัยน้ำท่วม 3 จังหวัดภาคใต้ ปี 2564

วันพุธที่ 13 มกราคม 2564 เวลา 11.00 น. มูลนิธิเด็กกำพร้าและการกุศล สื่อออนไลน์ theustaz.com กลุ่มเพราะเราคือเรือนร่างเดียวกัน JABIM สมาคมจันทร์เสี้ยวการแพทย์และสาธารณสุข Ron Construction และเครือข่าย พร้อมคณะครูและนักเรียนโรงเรียนยะลาวิทยปัญญานุสรณ์ บือนังบุโย อ. เมือง จ. ยะลา ได้ระดมกำลังแจกถุงปันสุขแก่ผู้ประสบอุทกภัยในชุมชนหมู่บ้านปากาลือซง ม.6 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

นายอัชอะรีย์ เจะเลาะ ประธานโครงการรินน้ำใจช่วยภัยน้ำท่วม 3 จังหวัดภาคใต้ปี 2564 มูลนิธิสงเคราะห์เด็กกำพร้าและการกุศลและภาคีเครือข่ายฯกล่าวว่า ในวันนี้ทีมงานให้ความช่วยเหลือได้เตรียมถุงปันสุขจำนวน 250 ถุง (50,000 บาท) น้ำดื่ม 150 โหล ( 5,000 บาท) พร้อมยาเวชภัณฑ์ (60,000 บาท) มูลค่ารวม 115,000 บาท มอบให้แก่ชุมชนหมู่บ้านปากาลือซง ม.6 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานีจำนวน 250 ครัวเรือน โดยมีอิหม่ามมัสยิด ผู้ใหญ่บ้าน สมาขิกอบต. และอสม. ประจำหมู่บ้านคอยอำนวยความสะดวกในการแบ่งปันความข่วยเหลือ

นายอับดุลร็อบ สะอะ ประธานมูลนิธิเด็กกำพร้าและการกุศล กล่าวว่า ตามที่มูลนิธิฯร่วมกับกลุ่มเพราะเราคือเรือนร่างเดียวกัน และสื่อออนไลน์ theustaz.com ประกาศระดมความช่วยเหลือให้แก่เหยื่ออุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ปี 2564 มีพี่น้องบริจาคผ่านบัญชีมูลนิธิฯ จนถึงวันที่ 12 มกราคม 2564 เป็นเงินจำนวน 229,280 บาท และเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย ประกอบด้วยบางพื้นที่ ประชาชนผู้เดือดร้อนจากน้ำท่วมยังไม่ได้รับความข่วยเหลืออย่างทั่วถึง มูลนิธิฯจึงเห็นควรขยายเวลาการรับบริจาคจนถึงวันที่ 20 มกราคม 2564 ในโอกาสนี้ ขอขอบคุณทุกท่าน บริษัท ห้างร้านและองค์กรที่กรุณามอบความไว้วางใจแก่มูลนิธิฯในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครั้งนี้

แจกถุงปันสุขแก่เหยื่อน้ำท่วมภาคใต้

11 ม.ค.64 ที่มหาวิทยาลัยฟาฏอนี สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี ได้เปิดปฏิบัติการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ประธานสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี อ.อิสม่าแอน หมัดอาด้ำ ประธานฝ่ายในประเทศ อ. อับดุลการีม อัสมะแอ ประธานเครือข่าย A-Khidmat และคณะกรรมการบริหารสภาเครือข่ายฯ

ปฏิบัติการครั้งนี้ทางทีมงานได้เตรียมถุงปันสุขจำนวน 1345 ถุง [สภาเครือข่ายฯ 400ถุง ศปง.ตอนบน 200ถุง ศปง.ตอนกลาง+มูลนิธิคนช่วยคน+สหกรณ์บริการอัลฮูดา 200ถุง มัสยิดบ้านเหนือ 210ถุง พัฒนศาสน์มูลนิธิ 35 ถุง มูลนิธิคนช่วยคน 300ถุง และน้ำดื่มจากมูลนิธิคนช่วยคนอีก 1500 โหล] งบประมาณทั้งสิ้น 400,000 บาท เพื่อนำมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ นราธิวาส ยะลา และปัตตานี

อ้างอิง https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3709126582481034&id=762235603836828&sfnsn=mo

Harun Yahya ซาตานในคราบนักเผยแพร่ศาสนาถูกตัดสินเข้าคุกกว่า 1,000 ปี

จันทร์ที่ 11 มกราคม 2021 ศาลตุรกีได้พิพากษาลงโทษจำคุก นายอัดนาน โอกตาร์ หรือที่รู้จักในนาม ฮารูน ยะห์ยา 1,075 ปี ในความผิดฐานต่างๆส่วนหนึ่งคือก่ออาชญากรรมทางเพศ

เช่นเดียวกันกับบรรดาสาวกของเขาอีก 236 คนโดยในจำนวนนี้มี 78 คนที่ถูกจับกุมแล้ว และถูกตัดสินคดีตามความผิดในข้อหาต่างๆเช่นแอบอ้างศาสนาและความเชื่อเพื่อการฉ้อโกง ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หลอกลวง บั่นทอนความมั่นคงของประเทศและก่อการร้าย

นายอัดนาน โอกตาร์ ถูกตำรวจจับกุม เมื่อเดือนมิถุนายน 2018 ในข้อหาก่อตั้งองค์กรอาชญากรรม ล่อลวงเด็ก ทำอนาจาร เป็นสายลับทางการเมืองและการทหาร แอบอ้างศาสนาเพื่อหลอกลวง กระทำก่อการร้าย บั่นทอนความมั่นคงของชาติ และพัวพันกับกลุ่มสายลับโมสาด อิสราเอล

นายอัดนาน โอกตาร์ อ้างตัวตนเป็นนักคิดและนักเผยแพร่อิสลามได้สร้างข้อกังขาในสังคมตุรกีและโลกอิสลามด้วยแนวคิดและการปฏิบัติที่ขัดแย้งกับหลักคำสอนอิสลาม เขาเคยประกาศตนเองเป็นอิมามมะฮ์ดีและยังสนับสนุนรัฐเถื่อนอิสราเอลอย่างหัวชนฝา

เขาเป็นผู้ดำเนินรายการในสถานีโทรทัศน์ช่อง A9TV ซึ่งรัฐบาลได้สั่งปิดแล้ว เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเผยแพร่รายการที่ฝ่าฝืนคำสอนอิสลาม โดยเฉพาะในรายการที่เขาออกอากาศพร้อมดารานักแสดงหญิงที่แต่งตัวโป๊เปลือยในวงเหล้า โดยเขาอ้างว่า กำลังเผยแพร่ศาสนาให้พวกนาง

นายอัดนาน โอกตาร์ นักวิชาการศาสนาแนวคิดวิปลาส ผู้ใช้คำสอนอิสลามเป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ของตนและมีแผนร้ายต่อความมั่นคงของชาติ มีหลักฐานพัวพันและสนิทสนมกับองค์กรต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มสายลับโมสาด อิสราเอล

นายอัดนาน โอกตาร์ หนึ่งในกระบอกเสียงผู้เชิญชวนผู้คนสู่นรกญะฮันนัม บัดนี้เขาถูกตัดสินคดีบนโลกนี้แล้ว ก่อนการพิพากษาจากศาลแห่งอัลลอฮ์ในวันแห่งการพิพากษา เขาและบรรดาสาวกจะได้รับการตอบแทนอย่างสาสม หากเขาไม่กลับเนื้อกลับตัวสู่การเป็นผู้ศรัทธาโดยแท้จริง


โดยทีมข่าวต่างประเทศ

bip แอพใหม่จากตุรกี

Turkcell บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือชั้นนำของตุรกี ตั้งอยู่ในนครอิสตันบูลประเทศตุรกี ผลิตโปรแกรมส่งข้อความBiP สำหรับโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน ซึ่งมีความปลอดภัยและไม่ต้องเสียค่าบริการ BiP ยังรองรับการส่งเสียง วิดีโอ ประชุมออนไลน์และสามารถแปลภาษาได้ 106 ภาษาด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง

Turkcell เปิดเผยว่าบริษัทเริ่มเปิดใช้ให้บริการตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2564 โดยหลังจากเปิดบริการเพียงสองวันมีผู้สมัครรับบริการแล้วทั่วโลกกว่า 2 ล้านราย

ผู้บริหาร Turkcell กล่าวว่า เราเปิดบริการโปรแกรมนี้ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการติดต่อสื่อสารด้วยโปรแกรม WhatsApp ที่วางเงื่อนไขมากมายแก่ผู้บริการ ทำให้มีข้อจำกัดต่างๆ BiP จึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ใข้บริการที่ต้องการความสะดวกและการติดต่ออย่างไร้จำกัด

Download
Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.turkcell.bip&hl=th&gl=US
Apple : https://apps.apple.com/us/app/bip-messenger-video-call/id583274826

โลกโซเชียลถามหาความรับผิดชอบ!! กรณีเขื่อนบางลางระบายน้ำ ใต้อ่วม

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

ข่าวน้ำท่วมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา ปัตตานีปีนี้หนักมากๆ หลังจากเขื่อนบางลางระบายน้ำจนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูว่า “น่าจะมีการจัดการน้ำดีกว่านี้ไหม?และสมควรใครจะออกมารับผิดชอบไหม?

ภาพจาก เอก บังเอก เส็นบัตร

#ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ถ้าไม่ปล่อยน้ำแล้วเขื่อนจะแตกแต่ประเด็นอยู่ที่ (จากเพจเศรษฐศาสตร์อิสลาม)
1. ก่อนที่คุณจะกดปุ่มปล่อยน้ำ คุณบริหารจัดการน้ำได้ดีแค่ไหน คุณได้ใช้ความสามารถและตำแหน่งที่อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงมอบให้อย่างเต็มที่หรือยัง

2. ในขณะที่คุณกำลังจะกดปุ่มปล่อยน้ำ คุณได้ทำการประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ทราบเพื่อรับมือกับสิ่งที่จะตามมาอย่างทั่วถึงหรือไม่

3. หลังจากที่คุณตัดสินใจกดปุ่มปล่อยน้ำแล้ว คุณได้เตรียมการ เตรียมสถานที่ และเตรียมทรัพยากร เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างครอบคลุมหรือไม่

#นักวิชาการหลาย ท่านสะท้อน เรื่องนี้
เช่น ผศ. ผศ. มัสลัน มาหะมะนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ให้ทัศนะว่า “จริงอยู่
สังคมมุสลิมเรา ถูกสอนให้ยอมรับกับตักดีร (การกำหนดสภาวะการณ์จากพระเจ้า) แต่มิได้หมายความว่าไม่ให้ฝึกฝนให้หาวิธีแก้ปัญหาเพื่อสู่ตักดีรที่ดีกว่า?

หรือใช่ว่า จะพึงพอใจรับสภาพที่เกิดขึ้นโดยอ้างตักดีรอย่างเดียว โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นเพราะการบริหารจัดการที่หย่อนยาน ไม่ใช้ข้อมูลเชิงสถิติที่สะสมมากว่า 40 ปี เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการตัดสินใจ ขาดการรวบรวมองค์ความรู้เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ขาดการบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ค่อยตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่กระทบในวงกว้าง ไม่ค่อยพูดถึงการคืนความสุขและให้สวัสดิการแก่ประชาชนโดยเฉพาะผู้ได้รับผลกระทบ “
อาจารย์รอมฎอน ปัญจอร์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้ทัศนะว่า “เหตุผลที่แจกแจงมาว่าจำเป็นต้องปล่อยน้ำทะลักบ้านและสวนของชาวบ้านก็เพื่อรักษาความมั่นคงของเขื่อน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือป้องกัน #เขื่อนแตก ที่อาจส่งผลเสียหายมากกว่า ทำไมเราต้องจมอยู่กับคำถามกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วย ไม่ใช่เพียงแค่การบริหารจัดการไม่ดีเท่านั้น แต่นี่คือข้อจำกัดของโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ในอดีต เป็นมรดกตกทอดของการจัดการทรัพยากรแบบรวมศูนย์ข้ามหัวผู้คนและเป็นความอัปลักษณ์ของรัฐราชการไทยและทุนก่อสร้างที่ฮั้วกับราชการมาเนิ่นนาน ด้วยเหตุนี้ การพัฒนาจึงต้องมีทางเลือกให้พิจารณาครับ ไม่ใช่เชื่อ ๆ กันว่ามันมีอยู่เพียงหนทางเดียว”

ข้อสังเกตเหล่านี้สะท้อนข้อสังเกตเดิมในการบริหารจัดการนำ้ที่อื่นๆของประเทศกล่าวคือ “ตราบใดที่กฟผ.บริหารน้ำด้วยหลักการว่าหน้าที่หลักของน้ำคือเป็นปัจจัยผลิตไฟฟ้า และตราบใดที่วิศวกรชลประทานไม่มีส่วนร่วมบริหารเขื่อนก็ยากที่จะป้องกันน้ำท่วมได้ “(อ่านเพิ่มเติมใน
https://www.isranews.org/community/comm-scoop-documentary/3961-เศรษฐศาสตร์สามัญสำนึก-น้ำท่วม-เขื่อน-และประกันอุทกภัย.html)
ซึ่งสอดคล้องกับทัศนะของผู้เชี่ยวชาญที่สะท้อนว่า “น้ำท่วมเพราะบริหารจัดการน้ำไม่เป็น (ฟังบทเรียนอดีต #น้ำท่วม…บริหารจัดการไม่เป็น https://www.posttoday.com
#น้ำท่วม : มาจากน้ำที่ปล่อยลงจากเขื่อน
สามารถฟ้องได้ไหม?

น้ำท่วม มาจากน้ำที่ปล่อยลงจากเขื่อนเป็นเหตุให้ทรัพย์สินและชีวิตคนเสียหายทำให้สังคมฉงนว่าเหตุใดผู้มีอำนาจดูแลเขื่อนจึงปล่อยน้ำมหึมาเช่นนั้น? มีการบริหารจัดการน้ำหรือไม่อย่างไร?
“ การที่ปีนี้ฝนตกชุกก็ควรให้น้ำไหลออกทางน้ำล้นหรือสปิลเวย์ (spillway)…ถ้าผู้มีอำนาจ ผู้รับผิดชอบ ดูแลจงใจกระทำเพื่อให้เกิดความเสียหายถือว่า ผู้มีอำนาจดูแลบริหารเขื่อนจงใจทำละเมิดอันเป็นความผิดทั้งอาญาและแพ่ง แต่ถ้าผู้บริหารเขื่อนเห็นว่าในเขื่อนมีน้ำอยู่มากเกรงจะเป็นอันตรายต่อเขื่อนจึงรีบปล่อยน้ำเพื่อมิให้เขื่อนเสียหาย โดยไม่คำนึงถึงผลจะเกิด ถือว่าผู้บริหารเขื่อนประมาทเลินเล่อ การกระทำจึงเป็นละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดต่อผู้เสียหายในผลแห่งละเมิดที่เจ้าหน้าที่ของตนได้กระทำในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

ปัญหาสุดท้ายมีว่า จะฟ้องที่ศาลปกครองหรือศาลยุติธรรม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 9 บัญญัติว่า ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งในเรื่องดังต่อไปนี้

– คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมายหรือจากกฎ คำสั่ง ทางปกครอง ฯลฯ

การที่ผู้มีอำนาจบริหารเขื่อนจงใจ หรือประมาทเลินเล่อปล่อยน้ำออกจากเขื่อนโดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายอันจะเกิดแก่ประชาชนหรือประเทศชาติ จึงเป็นการกระทำละเมิด

หน่วยงานต้นสังกัดไม่ว่าจะเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า หรือกรมกองของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับระบบชลประทาน ล้วนมีฐานะเป็นหน่วยงานทางปกครองจึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย จึงต้องฟ้องคดียังศาลปกครอง
อ้างอิง
https://www.isranews.org/isranews-article/4131-หน่วยงานรัฐ-“ปล่อยน้ำเขื่อนเหตุน้ำท่วม”-ฟ้องศาลปกครองได้.html

#ฝากเตือนทุกคนเป็นบทเรียน
อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงตรัสว่า “การบ่อนทำลาย ได้เกิดขึ้นทั้งทางบกและทางน้ำ เนื่องจากสิ่งที่มือของมนุษย์ได้ขวนขวายไว้เพื่อที่พระองค์จะให้พวกเขาลิ้มรสบางส่วนที่พวกเขาประกอบไว้ โดยที่หวังจะให้พวกเขากลับเนื้อกลับตัว” (อัร-รูม: 41)

ขออัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงตอบแทนผู้ให้ด้วยสิ่งที่ดีกว่า
หมายเหตุ
สมพร ช่วยอารีย์ ให้ข้อมูลว่า

ปริมาณน้ำในเขื่อน 99% ดูได้จาก http://tiwrm.haii.or.th/DATA/REPORT/php/rid_bigcm.html

พื้นที่ฝนตก ดูได้จาก http://www.pbwatch.net/apps/

วันนี้ 10 มกราคม 2564 แรม 12 ค่ำ ครับ วันอังคาร 12 ม.ค. – 15 ม.ค. เจอน้ำทะเลหนุนต่อนะครับ

ดูแนวโน้มฝนตก ได้จาก https://www.windy.com/-Rain-thunder-rain?rain,6.758,101.378,5,i:pressure

ดูแนวโน้มคลื่นลมทะเล ได้จาก http://www.pbwatch.net/apps/ คลิกคลื่นลมทะเล


โดย อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

ระดมความช่วยเหลือด่วนแก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส

ระหว่างวันที่ 8 – 10 มกราคม 2564 หน่วยงานและองค์กรภายใต้สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี อาทิ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กกำพร้าและการกุศล มูลนิธิซะกาตและสาธารณกุศล สมาคมจันทร์เสี้ยวการแพทย์และสาธารณกุศล ปั้มปตท. ท่าสาปยะลา Waqaf Care (PEDULI) กลุ่มเพราะเราคือเรือนร่างเดียวกัน เครือข่าย JABIM สื่อออนไลน์theustaz.com A-Khidmat มูลนิธิอัสสลามเพื่อเยาวชน ชมรมเครือข่ายคุณภาพอัสสลามยะลา ชมรมมิตรภาพที่เป็นหนึ่ง กลุ่ม Ummatee เครือข่ายมุสลิมะฮ์สมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย IAC – Islamic Association Care ชุมชนมัสยิดซูบูลุสสลาม ตลาดเก่า จ. ยะลา และชุมชนมัสยิดอัตตะอาวุน บางปู ปัตตานี พร้อมจิตอาสานักเรียนและนักศึกษา

ได้ระดมความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมแก่ชุมชนในจังหวัดยะลา ปัตตานีและนราธิวาส ตามชุมชนต่างๆได้แก่ ชุมชนวังกระ ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา จำนวน 490 ครัวเรือน ชุมชนบ้านแป้น ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา จำนวน 300 ครอบครัว ชุมชนบ้านบาโด ต. ยุโป อ. เมือง จ. ยะลา จำนวน 200 ครัวเรือน ชุมชนบ้านกือจา อ. ยะหา จ. ยะลา 200 ครัวเรือน ชุมชนบ้านจาหนัน ต. พร่อน อ. เมือง จ. ยะลา จำนวน 150 ครัวเรือน ชุมชนบ้านกำปัน ต. ท่าสาป อ. เมือง จ. ยะลา จำนวน 160 ครัวเรือน ชุมชนตลาดเก่าซอย 12 และ 14 จำนวน 100 ครัวเรือน ชุมชนปาแดโฆะ เทศบาลนครยะลา 200 ครัวเรือน ชุมชนมัรกัสยะลา 150 ครัวเรือน ชุมชนปะกาฮะรัง อ. เมือง จ. ปัตตานี จำนวน 300 ครัวเรือน และชุมชนบ้านโต๊ะแบ ต. มะรือโบออก อ. เจาะไอร้อง จ. นราธิวาส จำนวน 30 ครัวเรือน

นายมูฮำหมัด แม ประธานที่ปรึกษากลุ่ม A-Khidmat สาขายะลา กล่าวว่า สืบเนื่องจากชาวบ้านในหลายพื้นที่ในจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาสได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยซึ่งได้ขยายวงกว้างไปในหลายพื้นที่ ชาวบ้านบางหมู่บ้านที่อาศัยริมแม่น้ำปัตตานีต้องอพยพอาศัยตามถนนชั่วคราว A-Khidmat สาขายะลา มูลนิธิ ชมรมและภาคีเครือข่ายในสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี จึงได้ระดมความช่วยเหลือจากพี่น้อง โดยในเบื้องต้นได้จัดทำถุงยังชีพจำนวน 1,500 ถุง อาหารกล่อง 3,000 กล่อง น้ำดื่ม 2,000 โหลพร้อมยาเวชภัณฑ์จำนวนหนึ่ง ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 300,000 บาท ซึ่งได้รับจากการระดมบริจาคที่ระดมโดยองค์กร ชมรม โรงเรียน ชุมชนมัสยิด ร้านค้าและภาคีเครือข่ายเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นแก่เหยื่ออุทกภัยครั้งนี้

จังหวัดยะลาน้ำท่วมขยายเป็นวงกว้างโดย ปภ.รายงานเดือดร้อนแล้ว 8 อำเภอ 52 ตำบลกระทบ 12,139 ครัวเรือน 48,909 คน ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วม หลังจากที่เขื่อนบางลาง จ. ยะลาได้ทำการระบายน้ำออกทางระบบสปริลเวย์ชั่วโมงละ 2 ล้านลบ. ม. ทั้งนี้สถานการณ์ฝนตกสะสมในพื้นที่ถือว่าครั้งนี้มีปริมาณมากที่สุดในรอบ 10 ปี

ส่วนที่จังหวัดปัตตานี ประกาศ 5 อำเภอเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ หลังจากน้ำจากยะลาและนราธิวาสไหลสมทบ ทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองและบริเวณรอบเมือง


โดยทีมข่าวในประเทศ

สหรัฐฯกลียุค กรรมาธิการตุลาการจี้ปลดทรัมป์ออกจากตำแหน่งปธน.

นับเป็นวันมืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยสหรัฐอเมริกา เมื่อม็อบสนับสนุนทรัมป์บุกอาคารรัฐสภา ขวางสภาคองเกรสรับรองไบเดนเป็นประธานาธิบดีคนใหม่เมื่อวันพุธที่ 6 มกราคม 2021

รองปธน.ไมค์ เพนซ์ ประณาม บอกเป็นวันที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐสภาสหรัฐฯ ขณะสภาคองเกรสกลับมาประชุมต่อ รับรองไบเดน เป็นประธานาธิบดีคนใหม่แล้ว

ในขณะที่กรรมาธิการฝ่ายตุลาการสหรัฐฯออกโรงจี้ให้สภาคองเกรสมีคำสั่งปลดทรัมป์พ้นตำแหน่งประธานาธิบดี อ้างเป็นบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ

นายชาร์ก ชูเมอร์ ประธานกรรมาธิการตุลาการแห่งสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกากล่าวว่า หลังจากนี้เป็นต้นไป ทรัมป์ไม่มีความชอบธรรมดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาแม้แต่วันเดียว พร้อมระบุจะดำเนินคดีทรัมป์หากรัฐบาลไม่ปลดเขาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี โดยใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 เปิดทางโอนอำนาจให้รองประธานาธิบดีไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราวหรือตลอดไป

บทบัญญัติดังกล่าว อนุญาตให้รองประธานาธิบดีขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีได้ หากประธานาธิบดีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ เช่น เมื่อประธานาธิบดีอยู่ในสภาพเป็นบุคคลไร้ความสามารถเนื่องจากอาการป่วยทางกายหรือทางจิต  ซึ่งจะต้องอาศัยเสียงส่วนมาก 2 ใน3 ทั้งจากวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานาธิบดีจะเป็นผู้ทำหน้าที่ประธานาธิบดี ไปจนกว่าจะได้ข้อสรุป

ในขณะเดียวกัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ นางแนนซี่ เพโลซี่ ระบุทรัมป์อันตรายต่อประเทศของเรา และเราไม่จำเป็นต้องมอบหมายให้เขายุยงกลุ่มผู้สนับสนุนเขาอีกต่อไป

ในขณะที่ นายคริสต์ เวนโฮลัน สมาชิกวุฒิสภาฯ เรียกร้องให้ปลดทรัมป์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะการมีอำนาจของเขาเปรียบเสมือนระเบิดเวลาที่ทำลายความมั่นคงของประเทศ เขายังระบุว่า ทรัมป์ได้ละเมิดสถาบันอันศักดิ์สิทธิ์ และจมเป็นต้นเหตุให้เกิดความรุนแรงและโกลาหล ทำให้เกิดการสูญเสียด้านจิตวิญญาณ

ส่วนนายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นายโมเรล บาวเซอร์เรียกร้องให้ลงโทษทรัมป์และกลุ่มผู้สนับสนุนที่ก่อจลาจลครั้งนี้ เขายังระบุว่าเป็นการโจมตีของก่อการร้ายที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา พร้อมได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นเวลา 15 วัน จนถึงวันที่โจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 20 มกราคม 2021 นี้

ทางด้านแกนนำรัฐบาลหลายคน ได้ชิงลาออกจากตำแหน่ง เพื่อประท้วงการตัดสินใจของทรัมป์ครั้งนี้


อ้างอิง

https://www.aljazeera.net/news/politics/2021/1/7/%D8%B9%D9%82%D8%A8-%D8%A7%D9%84%D8%AA%D8%B5%D8%AF%D9%8A%D9%82-%D8%B9%D9%84%D9%89-%D8%A8%D8%A7%D9%8A%D8%AF%D9%86-%D8%A7%D8%B3%D8%AA%D9%82%D8%A7%D9%84%D8%A7%D8%AA-%D9%81%D9%8A?fbclid=IwAR0WSSKTFTiJoRB0_jkTNzMMqPrmwGv9p0FPWKKq1jat_X5ZCkB8c25Elkw

โดย ทีมข่าวต่างประเทศ